วิธีเลือกเนอสเซอรี่ให้ปลอดภัย
- สำหรับสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน ก่อนอื่นให้พิจารณาจากใบอนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก นอกจากจะมีใบรับรองแล้ว ต้องเช็กให้แน่ใจด้วยว่ามีการต่ออายุทุกปีหรือไม่
- ความสะอาดของสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ตึกแถว หรือศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ต้องไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีห้องหับเป็นสัดส่วน ห้องครัวแยกต่างหาก ห้องน้ำสะอาดถูกสุขลักษณะ ไม่อยู่ใกล้แหล่งน้ำเน่าขังหรือมีมลพิษทางอากาศ หรือที่ที่เสียงดังรบกวนเด็กๆ
- มีความปลอดภัย มีรั้วรอบขอบชิด มีการสอดส่องบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนและเด็กๆ เพื่อป้องกันกรณีเด็กถูกลักพาหรือล่อลวงไปอนาจาร รวมถึงมีกล้องวงจรปิดที่ตรวจสอบได้
- เครื่องเล่นมั่นคงแข็งแรง หรือมีของเล่นที่ได้มาตรฐาน
- ครูและผู้เลี้ยงดูเด็ก ต้องต้องเพียงพอ เหมาะสม มีความรู้ในการดูแลเด็ก และควรผ่านการอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิตและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมทั้งมีวุฒิภาวะทางอารมณ์
มีระบบในการดูแลและแยกเด็กป่วย หรือมีการแจ้งเตือนเมื่อถึงมีโรคระบาด เช่น เมื่อเด็กๆ ในเนอสเซอรี่ป่วย ต้องรีบโทรแจ้งผู้ปกครองให้มารับทันที
มีอาหารที่จัดให้เด็กอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ
มีกาารเตรียมความพร้อมเรื่องอุบัติเหตุฉุกเฉิน เช่นมีเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาล สถานีตำรวจ และสถานีดับเพลิงในที่ที่เห็นได้ง่าย
สัญญาณเตือนลูกถูกทำร้าย
- โหยหาพ่อแม่ ถ้าปกติลูกไม่เคยโผเข้ากอดพ่อแม่หลังไปรับ แต่จู่ๆ ลูกวิ่งเข้าหาพ่อแม่แบบโหยหา หรือร้องไห้เข้าใส่ ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าอาจมีเหตุไม่ปกติเกิดขึ้นกับลูก (บางครั้งลูกอาจแสดงอาการงอแงทันทีที่ถึงบ้านเพราะอยู่ต่อหน้าครูที่โรงเรียนแล้วไม่กล้า)
- หวาดกลัว ไม่อยากไปโรงเรียน ยิ่งถ้าปกติลูกเป็นเด็กร่าเริงแล้วอยู่ๆ ไม่พูด เงียบ ไม่ร่าเริง งอแง และร้องไห้ไม่ยอมไปโรงเรียน (เนอสเซอรี่) คราวนี้ให้ถามลูกได้เลยค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น
- พัฒนาการช้า ถดถอย ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยกว่าที่ควรเป็นตามวัย งอแง ขี้ตกใจ
- ผวา ละเมอ ให้สังเกตตอนที่ลูกนอนว่ามีอาการผวา หรือละเมอร้องไห้หรือไม่
- มีรอยเขียวช้ำตามตัว คุณแม่ควรสังเกตตามตัวลูกว่ามีรอยแผลเขียวช้ำหรือเปล่า โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นเป็นประจำ และคุณแม่ควรเช็กในบริเวณร่มผ้าด้วยเพราะส่วนใหญ่พี่เลี้ยงมักทำร้ายในที่ที่คุณแม่มองเผิน ๆ ไม่เห็น
ทำยังไงถ้าลูกถูกทำร้ายที่เนอสเซอรี่
- เมื่อสอบถามลูกแล้วพบว่าถูกทำร้ายให้รีบพาลูกไปตรวจร่างกาย เพื่อให้คุณหมอเช็กความผิดปกติ ถ่ายรูปร่องรอยที่ถูกทำร้ายและเก็บหลักฐานทางการแพทย์ไว้
- แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและศูนย์ดำรงธรรมหรือมูลนิธิคุ้มครองเด็กให้เข้ามาดูแล
- ย้ายเนอสเซอรี่ทันที เพื่อป้องกันเหตุลูกถูกทำร้ายอีก
ในกรณีที่ไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรง และลูกไม่ได้มีอาการผิดปกติ ให้คุณพ่อคุณแม่ใช้วิธีสืบจากเพื่อนในห้องหรือผู้ปกครองคนอื่นๆ ก่อน เพื่อหาพยานและหลักฐาน จากนั้นให้รีบแจ้งทางโรงเรียน แจ้งผู้บริหารเนอสเซอรี ขอเช็กกล้องวงจรปิด และแนวทางแก้ไข ซึ่งทางเนอสเซอรี่อาจจะมีบทลงโทษครูพี่เลี้ยงตามกฎระเบียบ เช่น ย้ายห้อง พักงาน หรือไล่ออก
แต่บางครั้งก็ไม่ได้หมายความว่าการเจรจากับโรงเรียนจะได้ผลเสมอไป ลูกยังมีโอกาสถูกทำร้ายจากพี่เลี้ยงคนเดิม หากคุณแม่ไม่สามารถย้ายเนอสเซอรี่ให้ลูกได้ และลูกยังต้องอยู่ที่เดิมพร้อมกับยังต้องเจอครูพี่เลี้ยงคนเดิมอยู่อีก หลังจากเจรจาตกลงกับที่โรงเรียนแล้ว ควรไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ด้วยค่ะ เพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดจากการโดนพี่ครูพี่เลี้ยงทำร้ายในโรงเรียนอีก