เลข..ยาขมของผู้ใหญ่ แต่อาจเป็นขนมของเด็กๆเรื่องคณิตศาสตร์ เป็ยนยาขมหม้อใหญ่ของผู้ใหญ่หลายคนทีเดียว แต่สำหรับหนูนุกะน้องนิแล้ว เอ..ไหงกลายเป็นขนมไปได้นา..
เปิดเทอมนี้ น้องนุได้เป็นนักเรียน ป.1 เต็มตัว ตัดผมหัวเกรียน แบบคลาสสิก นักเรียนป.ไงครับ ทรงนี้สวยดีสำหรับเด็กน้อยนะ เด็กหนุ่มคงไม่ค่อยชอบเท่าไร ผมสั้นรักษาง่ายดีครับ ก็เด็กเล็กๆ นี่ซนชะมัด เหงื่อไคลทั้งหัวทั้งตัวทั้งแขนขา
การเรียนป.1 เริ่มเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น ทำให้ผมนึกได้ว่า ตอนอยู่ อ.3 ผมเคยสอนนุให้คูณเลข ไม่ได้อยากจะเร่งรัดอะไรหรอกครับ อยากจะลองดูว่านุจะทำได้รึเปล่าเท่านั้น
ตอนนั้น นุ บวกเลขง่ายๆ ได้คล่อง แถมยังรู้จักอนุกรมอีกด้วย ถ้าเราบอกแกว่า ผู้ชายนั่งสลับกับผู้หญิง แกจะบอกเลยว่าเหมือนอนุกรมเลย เด็กชายคนนี้ชอบคณิตศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ครับ วิชาอื่นๆ ผมก็พยายามทำให้ชอบเหมือนกัน แต่สองวิชานี่เข้าขั้นนิยมเลยแหละ
ผมตั้งใจว่า ช่วงแรกๆ นี่จะสอนให้ลูก ชอบวิชา มากกว่า รู้วิชา เพราะถ้าแกชอบแล้ว เชื่อว่า เรื่องรู้เดี๋ยวแกก็จัดการได้เอง ตอนสอนคูณเลขผมใช้ไม้บล็อกเป็นอุปกรณ์ เอาสี่อันเรียงแถวละสอง เป็นสองชั้น แล้วถามนุ
?นุ สองบวกสองเป็นเท่าไหร่?
?สี่ครับ? หมูครับโจทย์แค่นี้
?สองคูณสองล่ะ?
?คูณเป็นยังไงครับ? ผมก็ชี้ให้แกดูไม้ บล๊อก แกก็นับแล้วตอบ ดูนุสนุกเลยทำหลายๆ ข้อ ในที่สุด นุเข้าใจ หลักการคูณ คือ แกจะบวกในใจไปเป็นจำนวนครั้ง อย่าง สาม คูณ สาม แกก็เอาสามบวกกันสามครั้ง ใช้สองมือช่วยกัน มือหนึ่งนับจำนวนครั้ง มือหนึ่งนับเลข เลยคูณได้อย่างมาก ห้า คูณ ห้า
หลังจากนั้น เราก็เลิกเล่นเรื่องนี้ไป หันไปเล่นอย่างอื่น จนวันหนึ่งผมอยากลองดีกับเจ้าลูกชายอีก เลยถามโจทย์ที่ยากมากๆ ข้อหนึ่ง
?นุ ถ้าเราจะซื้อคอมพิวเตอร์ราคาสองหมื่นบาท เราต้องเอาเหรียญสิบมากี่เหรียญ?
เด็กน้อยถึงกับ อึ้ง ไปเลยครับ สักพักแกก็ชูนิ้วขึ้น ท่านี้เป็นท่าเด็ด เวลา ?ปิ๊ง? นุจะชอบชูนิ้วชี้ขึ้นมา แล้วขยับแขนดุ๊กดิ๊กๆ
?นุรู้แล้ว ต้องหาอะไรมาคูณสิบ ให้ได้สองหมื่น? นี่เรื่องใหญ่นะครับ เพราะนุยังไม่รู้จักการหาร แต่ความคิดน้อยๆ นี่เท่ากับแกแก้สมการได้เองเลยแหละ ผมเลยลองของต่อไปอีก
?เออ เก่งนี่ ถูกต้อง แล้วได้เท่าไหร่ล่ะ? คราวนี้เงียบไปนาน ยกนิ้ว ขึ้นๆ ลงๆ ทำปากขมุบขมิบ เหมือนบริกรรมคาถาหลายนาทีกว่าจะได้คำตอบ แต่ตอบไม่ค่อยเต็มเสียงเท่าไร
?สองพันครับ? สบตาเหมือนกำลังลุ้น ผมเลยทำหน้าเหมือนคุณไตรภพ
?สองพัน....เป็นคำตอบที่......ถูกต้อง? หนุ่มน้อยชูมือเฮ แบบในทีวียังไงยังงั้นเลย
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมเริ่มสงสัยว่า การกระตุ้นพัฒนาการเด็ก อาจจะไม่ได้อยู่ที่ศักยภาพของเด็กอย่างเดียว น่าจะเกี่ยวกับวิธีของผู้ใหญ่ด้วย ศักยภาพของสมองน้อยๆ ที่วงการวิทยาศาสตร์รู้ อาจจะยังไม่ถูกต้อง เด็กน่าจะฉลาดกว่านั้นอีกมาก
แต่เด็กบางคนฉลาดแกมโกงด้วยนะ ก็เจ้านิไงล่ะ หรือจะเรียกว่าฉลาดแกมอ้อนก็ดูน่ารักนะ เพราะจนป่านนี้ยังรบกันเรื่องนมขวดไม่สำเร็จเลยครับ จากการสารภาพตรงๆ ว่า ?นิทนไม่ไหว? เริ่มมีลวดลาย
?ไหนนิบอกว่า คืนนี้จะไม่กินนมขวดไง?
?นิต้องกินนมขวด นิยังเด็กอยู่? สาวน้อยเริ่มออกลีลาครับ
?นิโตแล้ว?
?นิเด็กเล็ก เด็กโตต้องพี่นุ? เอาเหตุผลเก่าๆ ของผมมาโต้ด้วยนะ
?นิ สามขวบ นิโตแล้ว นิสัญญาว่าสามขวบจะเลิกกินนมขวดไง? สัญญานี้เราทวงกันบ่อยนิจำได้ขึ้นใจ
?นิยังไม่ ฉาม นิ ฉองขวบเอง? มาไม้นี้ผมชักงง
?นิสามขวบ? พ่อก็ยังเถียงไม่เลิกเหมือนกัน
?นิฉอง นี่ไง? พูดพร้อมกับชูนิ้วสองนิ้ว แกเพิ่งนับนิ้วเป็น
?ฉาม อย่างนี้? ชูสามนิ้วสอนผมเสร็จสรรพ
?นี่นิ ฉอง ฉองอย่างนี้ เข้าใจมั้ยคะ?
เถียงกันไม่รู้เรื่องแล้วครับ สรุปคือถ้านิชูสองนิ้วหมายถึงนิสองขวบ ถ้านิชูสามนิ้วก็สามขวบ คืนนั้นพ่อเลยต้องยอมแพ้อีกคืนหนึ่ง ศิริรวมจะเกินร้อยคืนแล้วละมัง
เด็กสองคนนี่ เก่ง คณิตศาสตร์ พอๆ กันเลยนะครับ