คู่มือพาลูกเดินห้างอย่างปลอดภัย
กิจกรรมยอดฮิตอย่างหนึ่งของครอบครัวยุคนี้ คือไปเดินห้างสรรพสินค้ายิ่งเจ้าตัวเล็กยิ่งชอบใจนัก ใจจริงแล้วไม่ค่อยอยากให้เราใช้เวลาของครอบครัวในห้างกัน
หรอกค่ะ มีแต่เรื่องเสียเงิน ประโยชน์ที่ได้ไม่คุ้มค่าคุ้มเวลา แถมยังมีอันตรายที่คาดไม่ถึงด้วย แต่หากจำเป็นต้องไป คุณพ่อคุณแม่ควรเพิ่มความระมัดระวังในจุดอันตรายของห้างให้มากหน่อย
บันไดเลื่อน..จอมหนีบ
มีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ ว่าเด็กถูกบันไดเลื่อนหนีบมือหนีบขา โดยมากเป็นลูกวัยซนที่มองบันไดเลื่อนเป็นของเล่นอย่างหนึ่ง ขึ้นหรือลงจนสุดแล้วไม่ยอมเดินต่อ พ่อแม่กำลังรีบร้อนไปช้อปปิ้ง(โดยเฉพาะนาทีทองลดแหลก) เลยปล่อยให้ลูกเล่นบันไดเลื่อนอยู่อย่างนั้น นึกว่าลูกเล่นอยู่ตรงนี้แหละดีแล้วไม่ไปไหน พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยคิดหรอกว่าบันไดเลื่อนมีอันตราย
เด็กบางคนมือเข้าไปติดที่ซอกราวบันได ถ้าช่วยไม่ทันมีสิทธิ์กระดูกกระเดี้ยวแตกได้ หรือบางคนพลัดตกลงมาขาแข้งแพลงสิ่งสำคัญอีกอย่าง แต่ละวันมีคนใช้บันไดเลื่อนมากมาย ต่างก็ใช้มือจับราวบันไดราวบันไดจึงเป็นตัวแพร่สารพัดเชื้อโรค หากลูกเอามือไปจับราวบันไดแล้วเผลอๆ เอามือไปเข้าปาก เจ้าเชื้อโรคตัวดีก็เข้าปากลูกด้วย..ไม่ได้เตือนอย่างคนอนามัยจัดนะคะ แต่ก็ไม่ควรมองข้าม
ปลอดภัยไว้ก่อน
* ไม่ปล่อยให้ลูกใช้บันไดเลื่อนเอง ขึ้น-ลงทุกครั้งต้องจับจูงลูกให้ยืนอยู่ตรงกลางบันได มือซุกซนของแกจะได้ไม่ต้องจับราว
* บอกถึงอันตรายของบันไดเลื่อน และสอนให้ลูกใช้บันไดเลื่อนอย่างถูกต้อง ว่าขึ้น-ลง และยืนอย่างไรจึงจะปลอดภัย เช่น ไม่วิ่งขึ้นลงบันได ไม่ขึ้นลงสวนทาง นอกจากอันตรายแล้วยังทำให้คนอื่นรำคาญด้วย
* เมื่อต้องใช้รถเข็น(ไม่ว่ารถเข็นเด็ก หรือรถเข็นของในซูเปอร์ฯ) อย่าขึ้นลงทางบันไดเลื่อน เปลี่ยนไปใช้ลิฟท์จะปลอดภัยกว่าลิฟต์..ช่างค้างอันตรายจากลิฟต์ก็มีค่ะ โดยเฉพาะเรื่องหนีบกับเรื่องค้าง..เขาเป็นเจ้าอยู่ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ต่างมีเปอร์เซ็นต์เสี่ยงพอๆ กัน เพราะฉะนั้นเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเลยนะคะ ปลอดภัยไว้ก่อน
* ถ้าเป็นไปได้ ควรใช้บันไดเลื่อนดีกว่า
* อย่าปล่อยหรือเผลอให้ลูกขึ้นลงลิฟต์เอง พ่อแม่ต้องไปกับลูกด้วยทุกครั้ง โดยเฉพาะลูกเล็กที่ยังกดปุ่มลิฟต์ไม่ถึง และหากเกิดอะไรขึ้น เช่น ลิฟต์ค้าง พ่อแม่จะได้ช่วยแก้ปัญหาได้
* เมื่อถึงจุดหมาย ให้ลูกเข้า-ออกจากลิฟต์ก่อน คุณพ่อคุณแม่จะได้คอยกดปุ่มเปิด-ปิดประตูไว้ให้ ไม่อย่างนั้นลูกเจอหนีบแน่ๆรถเข็น...ไม่ใช่รถนั่ง"เอ้า..นั่นหน้าคะมำลงจากรถเข็นแล้ว ปากเจ่อเลย"นี่เป็นภาพที่เราจะพบอยู่เสมอเมื่อคุณพ่อคุณแม่ผู้ใจดี(ไม่ถูกเรื่อง) จับลูกนั่งรถเข็น (จะด้วยลูกรบเร้าอยากนั่ง หรือพ่อแม่ขี้เกียจคอยจับลูกที่วิ่งซน จับใส่รถเข็นสิ้นเรื่องสิ้นราวไป) เอาไปใช้นั่ง ผิดวัตถุประสงค์อย่างนี้ก็ได้เรื่องสิ ยิ่งเด็กๆ อยู่ไม่สุขด้วยแล้ว ผุดลุกผุดนั่ง คนเข็นกะน้ำหนักโอกาสที่ลูกหรือรถจะล้มคว่ำคะมำหงายก็มีมากขึ้น
ปลอดภัยไว้ก่อน
* ห้ามลูกนั่งรถเข็น(ของในซูเปอร์ฯ)เป็นอันขาด
* หากวันไหนต้องซื้อของมาก ไม่ควรไปคนเดียว ชวนคุณพ่อบ้านคนดีไปช่วยอุ้ม จูงลูกด้วย หรือเอาลูกนั่งรถเข็น(เด็ก)คุณพ่อช่วยเข็นก็จะดี ถ้าลูกยังเล็กมากอย่าเอาลูกไปซื้อของด้วยจะดีที่สุดค่ะ
เพลย์แลนด์..ไม่อาว..ไม่เล่น
บริเวณของห้างที่เป็นยอดนิยมของเด็กๆ คือเพลย์แลนด์ ก็มีอันตรายไม่น้อยเหมือนกัน ที่ต้องระวังคือความสะอาดของอุปกรณ์และของเล่น คิดดูสิคะว่าแต่ละวันมีเด็กเข้าไปใช้เท่าไหร่ (เปิดใช้มากี่ปีก็ไม่รู้!) อีกทั้งเด็กก็แย่งเล่นกันให้วุ่นวาย
ปลอดภัยไว้ก่อน
* เลี่ยงได้เลี่ยงเถอะค่ะ ซื้อของเสร็จแล้วรีบกลับบ้าน
* ถ้าลูกร่ำร้องอยากเล่น ให้บอกลูกว่าจะพาไปเล่นที่สนามเด็กเล่น(กลางแจ้ง)หรือซื้อของเล่นไปเล่นหกคะเมนตีลังกากันที่บ้านตามประสาพ่อแม่ลูก ยังจะมันและมั่นใจในความสะอาดกว่ากันเยอะเลย
พลัดตกและพลัดหลง
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากจุดอันตรายในห้าง หากเกิดจากตัวพ่อแม่เอง ที่อาจเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อของ ยิ่งช่วงกระหน่ำเซล จิตใจพ่อแม่ก็จดจ่ออยู่กับการเลือกซื้อของมารู้อีกทีลูกไปไหนแล้วไม่รู้ กว่าจะหากันเจอ ลูกก็ร้องไห้เสียขวัญ แม่ก็เสียใจ ไม่ดีกับใครสักฝ่ายเลย มีคุณแม่บางคนเลือกเพลินจนลูกเดินตกจากชั้นสามลงไปชั้นสอง (ย้ำว่าเรื่องจริงค่ะ) เดชะบุญที่หนูน้อยตกลงไปบนกระบะเสื้อผ้าชั้นล่าง คุณแม่เลยไม่ต้องเสียใจไปมากกว่านี้ แต่จะโชคดีอย่างนี้ทุกรายน่ะรึ? เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดว่า เหอะน่า..แป๊บเดียวไม่เป็นไร เพราะน้ำตาตกกันมาหลายรายแล้ว
ปลอดภัยไว้ก่อน
* อย่าเผลอหรือทิ้งลูกให้ห่างสายตา
* ถ้าไม่อยากพะวักพะวงกับลูกเวลาเลือกซื้อของ อย่าเอาลูกมาห้างด้วย หรือหาผู้ช่วยมาคอยดูลูกอย่างใกล้ชิด
แหล่งรวมคนแปลกหน้า
นอกจากเป็นแหล่งสารพัดเชื้อโรคแล้ว สรรพผู้คนในห้างนั้นเราไม่รู้ว่าใครดีใครร้ายกรณีเด็กหายหลายรายพบว่าเกิดจากการที่เด็กไว้ใจคนแปลกหน้า เดินตามเขาไปเพราะเห็นเขาใจดีเล่นด้วย หรือให้ขนมทาน
ปลอดภัยไว้ก่อน
* พ่อแม่ควรสอนลูกให้รู้จักระวังคนแปลกหน้า รู้จักปฏิเสธเมื่อใครมาชวนเล่นหรือชวนไปโน่นนี่ หรือให้ขนมทาน
* อย่าให้ลูกคลาดสายตาเป็นอันขาด อย่าปล่อยให้ลูกเล่นอยู่ที่มุมของเล่น หรือที่เพลย์แลนด์ตามลำพัง หรือให้ลูกไปซื้อของเอง เข้าห้องน้ำเอง หรือฝากลูกไว้กับคนแปลกหน้า
เห็นมะ..อันตรายเยอะไปหมด หากต้องการใช้เวลาพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวพากันไปนั่งเล่นกันในสวนสาธารณะดีกว่า อากาศก็ดี เด็กๆ มีที่ได้วิ่งเล่น ขี่จักรยาน ได้
ออกกำลังกายด้วย พ่อแม่ลูกสามารถมีกิจกรรมที่ได้ใกล้ชิดผูกพันกันมากกว่า (เพราะไม่มีสิ่งยั่วยวนใจอื่นๆ มาดึงความสนใจ) ทั้งปลอดภัยและเสียสตางค์น้อยกว่ากันเยอะเลย แต่หากจำเป็นต้องไปจับจ่ายที่ห้างฯ อย่ามองข้ามความปลอดภัยที่บอกกล่าวกันนะคะ ลืมไม่ได้!
ครั้งไหนที่ต้องหอบหิ้วลูกไปห้างฯ ด้วย สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรลืมคือ เขียนชื่อ ที่อยู่(ทั้งของพ่อแม่และลูก) เบอร์โทรศัพท์ สถานที่ที่ติดต่อสะดวกของพ่อแม่ ติดกระเป๋าลูกไว้ด้วยทุกครั้งนะคะ เผื่อเกิดพลัดหลงกันขึ้น จะง่ายต่อการติดต่อ