Dysfunctional Family ครอบครัวบกพร่องหน้าที่ เป็นเรื่องที่พบได้ทุกวันและเกิดได้ทุกครอบครัว โดยที่พ่อแม่ส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่ากำลังก่อปัญหาที่ทำร้ายและทำลายลูกโดยไม่รู้ตัว
1. คนในครอบครัวมีพฤติกรรมเสพติดอะไรบางอย่าง (Addiction) : เช่น ติดเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด ติดงาน ชอปปิง ติดเกม เสพสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
2. เลี้ยงลูกแบบผิด ๆ และเพิกเฉย (Abuse & Neglect) : ปล่อยปละละเลยลูก ไม่ให้ความรักความอบอุ่น พ่อแม่สนใจแต่เรื่องตัวเอง ไม่มี Family Attachment (สายสัมพันธ์ในครอบครัว)
3. พ่อแม่มีปัญหาบุคลิกภาพ (Personality Disorders) : พ่อแม่ต่อต้านสังคม เก็บตัว ย้ำคิดย้ำทำ หวาดระแวง หลงตัวเอง หูเบา ชอบพูดเกินจริง เรียกร้องความสนใจ อารมณ์รุนแรง ใช้ความรุนแรง กลัวถูกทิ้ง
4. พ่อแม่เลี้ยงลูกให้เป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษา (Emotional Incest หรือ Convert Incest) : พูดคุยกับลูกในเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่ให้ความสำคัญกับขอบเขตลูก ไม่ให้ความสำคัญกับขอบเขตของครอบครัวที่ควรจะเป็นที่พึ่ง แต่กลับให้ลูกเป็นที่พึ่ง
5. พ่อแม่เลี้ยงลูกเป็นพิษ (Toxic Parents) : พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก เกลียดกัน พาลเกลียดพ่อหรือเกลียดแม่แล้วมาลงที่ลูก
6. สภาพแวดล้อมที่บ้านมีความขัดแย้งสูง (Hight-Conflict Home Environments) : พ่อแม่มีความต่างกันมาก ทั้งด้านอายุ การเงิน ทัศนคติ วิถีชีวิต ค่านิยม ความเชื่อ การศึกษา เครือญาติไม่ถูกกัน
7. การชักใย (ชักจูง) เชิงอารมณ์ (Emotional Manipulation) : การทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ รู้สึกผิด รู้สึกกลัว กลั่นแกล้ง ทำให้อับอาย
หมายถึง พ่อแม่คอยควบคุมอย่างรอบด้านทั้งการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ความรู็สึก คำพูด การแสดงออก เพราะต้องการให้ลูกทำตัวให้ได้ดั่งใจ ไม่ทำสิ่งที่น่าอับอายต่อหน้าคนอื่น
หมายถึง พ่อแม่ที่ตั้งกฏและมีการวัดมาตรฐานของทุกสิ่งเพื่อให้ผลออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เช่น ลูกต้องทำสอบได้ที่ 1 เท่านั้น ห้องนอนต้องเป็นระเบียบที่สุด เป็นต้น เพราะต้องการให้ครอบครัวเป็นที่ยอมรับของสังคม
หมายถึง พ่อแม่ช่างตำหนิ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากครอบครัวแบบควบคุม เมื่อหลายอย่างไม่เป็นไปตามการควบคุม จะเริ่มโทษคนอื่น โทษลูกทันที เพราะต้องการหาที่มาของความผิดพลาดที่ทำไม่ได้ดั่งใจ
หมายถึง พ่อแม่ที่ Say no ตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลพวงมาจากครอบครัวแบบสมบูรณ์แบบนิยม ที่ “ห้าม/ไม่” ทำสิ่งที่จะทำให้ความเรียบร้อยสมบูรณ์แบบนั้นผิดไปจากแผนที่ตั้งไว้ ดังนั้นจะมีกฏข้อห้ามเยอะมาก จนลูกแทบทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากสิ่งที่พ่อแม่บอก
หมายถึง พ่อแม่มีกฎ 'ห้ามพูดคุย' ห้ามแสดงความรู้สึก แสดงความคิดเห็น ความต้องการ ทุกคนต้องการซ่อนความรู้สึก ความต้องการไว้ในใจ หรือความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง จนในที่สุดครอบครัวก็ไม่มีความใกล้ชิด คุยกันไม่ได้ทุกเรื่อง
หมายถึง พ่อแม่ที่คิดว่าทุกเรื่องไม่ใช่ปัญหา มองความจริงที่ปรากฏตรงหน้าเป็นเรื่องไร้สาระ มองหาแต่เรื่องดีมาใส่ครอบครัว ทำให้ปัญหาสะสม ลูกก็เลยรู้สึกไปด้วยว่าปัญหา ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ไม่ต้องใส่ใจ
หมายถึง พ่อแม่ที่เจอปัญหาแล้วอารมณ์รุนแรง หัวเสีย หาที่มาของปัญหาไม่ได้จนเกิดความสับสนไปหมด แล้วก็ไม่หาทางแก้ปัญหา ไม่ว่าตอนอารมณ์ยังร้อนหรือเย็นลงแล้วก็ตาม
หมายถึง พ่อแม่มักจะบอกว่าอย่าเชื่อใคร อย่าเชื่อใจใคร รวมถึงตัวพ่อแม่เองก็ทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เมื่อลูกมีปัญหา พ่อแม่เป็นที่พึ่งให้ลูกได้เลยทั้งการปฏิสัมพันธ์ คำพูด หรือการอยู่เคียงข้าง
(คลิกอ่านเรื่อง Dysfunctional Family เพิ่มเติม)
Dysfunctional Family แต่ละแบบก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแนวคิดของพ่อแม่ ความเครียด สภาพแวดล้อม แต่ทุกแบบมักจะมีสัญญาณเตือนให้พอรู้ตัวว่า เรากำลังเป็น Dysfunction Family ลองมาเช็กกันหน่อยค่ะว่าครอบครัวเราเข้าข่าย ครอบครัวพร่องหน้าที่หรือไม่
คุณพ่อคุณแม่ลองเช็กดูนะคะว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นหรือเปล่า ถ้าใช่… ถึงเวลาที่เราต้องยอมรับและปรับเปลี่ยนตัวเองแบบยกเครื่องใหม่ เพื่อทำให้ครอบครัวเรากลับมา Functional Family ให้ได้