เด็ก ๆ ที่เกิดในยุคสมัยใหม่มีความเป็นตัวเองสูง ดังนั้นพ่อกับแม่ควรปลูกฝังเรื่องมารยาทไทยให้ด้วยลูกด้วยนะคะ เพราะไปไหนใครก็รักก็เอ็นดู มารยาทไทยดังไกลทั่วโลกที่มีแต่คนชม มาสอนเด็ก ๆ กันเลยค่ะ
แต่งกายให้ถูกกาละเทศะ ไปสถานที่ต่างๆ ก็แต่งตัวให้เรียบร้อยเหมาะสมกับสถานที่และเวลา ถือว่าเป็นเด็กมีวัฒนธรรมไทย ไปไหนคนก็เอ็นดู
สํารวมกิริยาท่าทาง และคําพูด บอกให้ลูกเคารพสถานที่ และรักษาบุคลิกของตนให้ดูดีเสมอ ต้องสํารวมเรื่องการพูด ไม่พูดคําหยาบคาย ไม่พูดเสียงดังเอะอะโวยวาย จะได้เป็นที่รักของผู้ที่พบเห็น
ต้องรู้จักเกรงใจผู้อื่น ไม่ว่าจะกับเพื่อนหรือผู้ใหญ่จะต้องมีความเกรงใจ เช่น ไม่เข้าห้องผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต ไม่หยิบของของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต รวมถึงต้องรู้จักระวังความรู้สึกของผู้อื่นด้วย
การให้เกียรติผู้อื่น ให้เกียรติด้วยวาจา เช่น ไม่พูดต่อหน้าผู้อื่นจนน้ำลายกระเด็น ไม่ล้อเลียน ไม่เยาะเย้ย และดูถูกผู้อื่น และให้เกียรติด้วยท่าทาง เช่น ไม่นั่งกางขา ไม่นั่งไขว่ห้าง ไม่นั่งโยกเก้าอี้ ไม่บิดขี้เกียจ หรืออ้าปากหาว ต่อหน้าผู้อื่น
รู้จักกล่าวคําขอโทษ และขอบคุณ หากทำผิดไปทั้งกับเพื่อนและผู้ใหญ่ ต้องกล่าวขอโทษในตอนนั้นไม่ละเลยความรู้สึกของผู้อื่น และหากได้รับสิ่งใดมาจากผู้อื่นควรกล่าวขอบคุณให้ติดเป็นนิสัย แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น หากเจอสถานการณ์ที่ผู้อื่นกำลังลำบาก ต้องเข้าไปช่วยเหลือหรือถามไถ่ เช่น หากเห็นคนแก่ถือของหนักต้องเข้าไปช่วย เห็นคนท้องยืนบนรถเมล์ต้องลุกให้นั่ง การแสดงความมีน้ำใจจะเป็นที่รักของผู้ที่พบเห็น
มีสัมมาคารวะ ไปลา-มาไหว้ ยกมือไหว้ผู้ใหญ่เมื่อพบเจอ และลาเมื่อกลับ รวมถึงทักทายเพื่อนด้วยรอยยิ้ม เพราะการส่งยิ้มให้กันก็เป็นการแสดงถึงความเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ที่ใครๆ ก็ต้องการคบหาด้วย
อ่อนน้อมถ่อมตน อ่อนโยน เดินผ่านผู้ใหญ่ให้ก้มโค้ง รับของจากผู้ใหญ่ต้องรับแบบอย่างสุภาพ แสดงออกถึงการอ่อนน้อมถ่อมตน ดูเป็นเด็กดีมีมารยาท ซึ่งจะเป็นที่รักใคร่ของผู้อื่น
รับฟังผู้ใหญ่ หากผู้ใหญ่สนทนากันเด็กไม่ควรพูดแทรก มารยาทแบบไทยเราควรฟังให้มากกว่าพูด เมื่อเป็นเด็กที่รับฟังผู้อื่นจะเป็นที่รักของทุกคน โตไปก็จะพูดแต่สิ่งที่ดีและมีประโยชน์