ลูกจะเอาตัวรอดในสังคมได้ การเป็นคนเก่งอย่างเดียวคงไม่อาจเอาตัวรอดได้ ดังนั้นการฝึกฝนทักษะต่างๆ ที่ต่อยอดเป็นความสามารถพิเศษ หรือเป็นทักษะในอนาคตของลูกได้ เพียงแค่สังเกตความชอบของลูก แล้วสนับสนุนและส่งเสริมเขาให้ถูกต้อง ก็อาจพัฒนาไปเป็นอาชีพที่มั่นคง เป็นความสุขในอนาคตของลูกได้ค่ะ
พญ.สินดี จำเริญนุสิต กุมารแพทย์พัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก รพ.เวชธานี ได้พูดถึง“ทักษะความสามารถ 5 ด้าน ที่เด็กไทยยุคใหม่ควรมี” ซึ่งเป็นทักษะที่พ่อแม่สังเกตและส่งเสริมได้ด้วยตัวเอง ลองมาดูกันว่ามีทักษะอะไร และควรส่งเสริมอย่างไรบ้าง
1. ทักษะทางตัวเลขและไอที
ไม่ใช่เฉพาะความสามารถพิเศษเพียงเรียนเลข บวก ลบ คูณ หารเก่งเท่านั้น แต่การมีทักษะทางคณิตศาสตร์ยังโยงถึงทักษะความสามารถเรื่องของมิติสัมพันธ์ การจัดระบบการคิดที่ดี การคิดอย่างมีเหตุผล การแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง รวมถึงทักษะด้านไอทีก็มีความสำคัญในโลกที่การทำงานถูกเชื่อมโยงด้วยข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีอย่างแยกกันไม่ออก
มีทักษะทางตัวเลขและไอที โดดเด่น สามารถพัฒนาไปเป็น นักบัญชี นักการเงิน นักวิจัย นักเศรษฐศาสตร์ วิศวกร สถาปนิก โปรแกรมเมอร์ ฯลฯ
2. ทักษะทางด้านภาษา
เป็นสิ่งจำเป็นมากในโลกยุคใหม่ที่โลกทั้งใบเปิดพรมแดนที่กั้นออก ภาษาเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะเชื่อมต่อสื่อสารเพื่อให้เข้าใจกันมากที่สุด ในที่นี้ไม่ใช่เพียงทักษะการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการมีทักษะภาษาเพื่อสื่อสารความต้องการของตนเองให้ผู้อื่นได้รับรู้อย่างถูกต้อง เพราะเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากในการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตในอนาคต
มีทักษะทางด้านภาษาโดดเด่น สามารถพัฒนาไปเป็น นักเขียน นักพูด บรรณาธิการ นักแปล นักการทูต ทำงานด้านต่างประเทศ ทำงานด้านนำเข้า/ส่งออก ฯลฯ
3. ทักษะด้านการเคลื่อนไหว พละกำลัง
การมีทักษะในการควบคุมร่างกายและกล้ามเนื้อทุกส่วนทำงานได้ดี เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะในเด็กวัย 6 ปีแรก เพราะการมีทักษะในการเคลื่อนไหว ใช้พละกำลังได้ดี จะส่งผลดีให้พัฒนาการเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ได้อย่างไม่สะดุด และหากมีความชอบและความสามารถอย่างโดดเด่น ก็สามารถพัฒนาจนนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้ดีทัดเทียมกับผู้ที่ชอบและเก่งในทักษะอื่นๆ ได้เช่นกัน
มีทักษะด้านการเคลื่อนไหว พละกำลัง สามารถพัฒนาเป็น นักกีฬาอาชีพ เทรนเนอร์ ฯลฯ
4. ทักษะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
การมีทักษะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นั้นเป็นพื้นฐานของการสร้างนวัตกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับสังคม หรือเพื่อเสริมสร้างสิ่งใหม่ให้กับโลกนี้ได้ การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อาจจะไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์เสมอไป แต่การมีทักษะความคิดสร้างสรรค์ช่วยต่อยอดให้เราคิดแก้ปัญหาสิ่งต่างๆ ได้ลุล่วงได้ ซึ่งส่งผลกับความก้าวเจริญก้าวหน้าในการเรียน ในการทำงาน หรือทุกเรื่องที่ต้องลงมือทำ
มีทักษะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาเป็น ครีเอทีฟ นักโฆษณา นักธุรกิจ นักการตลาด นักพัฒนาสินค้า ฯลฯ
5. ทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
เมื่อเติบโตขึ้น จะทำงานหรือสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จได้เราไม่อาจจะทำได้เพียงลำพังแค่ตัวเองคนเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือ ความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ทั้งนั้น ทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น เป็นทักษะสำคัญในการทำงาน ที่พ่อแม่ปลูกฝังส่งเสริมได้ตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มจากการส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ให้กับเด็กๆ ให้ควบคุมอารมณ์เมื่อเล่นกับคนอื่น หรือ อยู่ร่วมกับคนอื่น รวมไปถึงการบริหารความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวให้เหมาะสม
มีทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น สามารถพัฒนาเพื่อทำงานในฝ่ายบุคคล นักอาสาพัฒนา นักกิจกรรม ทำธุรกิจส่วนตัวในการบริหารทีม ฯลฯ
ในความเป็นจริงแล้วเด็กๆ ทุกคนจะมีทักษะทั้ง 5 นี้ที่ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีในแต่ละงาน และจำเป็นต้องใช้ทักษะหลายๆ ด้านประกอบไปพร้อมกัน ทั้งร่างกาย จิตใจ ความคิด อารมณ์ สังคม ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตว่าลูกมีความชอบด้านใดด้านหนึ่ง หรือเรียนรู้ด้านใดด้านหนึ่งได้ดีกว่าด้านอื่นๆ หรือไม่ ลูกอาจมีความสามารถอย่างเด่นชัดที่จะพัฒนาให้เป็นทักษะที่โดดเด่นขึ้นมาเพื่ออนาคตได้ ซึ่งเชื่อว่าหากได้รับการส่งเสริมตั้งแต่ยังเด็กจะทำให้ลูกเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข และมีความสามารถในอนาคต