พ่อแม่หลายคนมีปัญหาเมื่ออยากจะเริ่มสอนลูกอ่าน เขียน หรือทำการบ้าน แต่ลูกไม่มีสมาธิ หรือไม่สนใจที่จะเรียนรู้ แตกต่างจากเวลาอยู่ที่โรงเรียน ก่อนอื่นพ่อแม่ต้องทำความเข้าใจว่าเด็กในวัยนี้แตกต่างจากผู้ใหญ่ เขามีความสนใจอยากรู้อยากเห็นเรื่องต่าง ๆ ตลอดเวลา เมื่อสิ่งที่ทำไม่น่าสนใจหรือมีอย่างอื่นให้ทำให้เล่น ลูกก็จะหันไปทำอย่างอื่นแทน ทำให้ดูเหมือนว่ามีสมาธิจดจ่อได้น้อย ซึ่งแตกต่างจากผู้ใหญ่ แล้วจะมีเทคนิค เคล็ดลับสร้างสมาธิให้ลูกวัยนี้อย่างไรได้บ้าง
เล่นเกมฝึกสมาธิเกมเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของลูกได้ดี การเลือกเกมที่เหมาะสมมาเล่นกับลูกจะช่วยฝึก หรือกระตุ้นให้ลูกมีสมาธิเพิ่มขึ้น เช่น เกมจับผิดภาพ หาภาพที่แตกต่าง เกมต่อจิ๊กซอว์ หรือการต่อเลโก้ อาจจะเริ่มจากเกมง่าย ๆ ที่ใช้เวลาในการเล่นไม่นาน แต่ควรเล่นให้จบเพื่อให้ลูกเรียนรู้ที่จะมีสมาธิจดจ่อจนสำเร็จลุล่วง
2. ทำบ้านให้สงบ
ตัดสิ่งรบกวนสิ่งแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญกับสมาธิ ลองทำบ้านให้เงียบลง ปิดทีวี ไม่เดินไปเดินมา ส่งเสียงดังรบกวน ปรับไฟ ปรับแสงในบ้านให้สว่างพอดี และเลือกเปิดเพลงคลอเบา ๆ ระหว่างลูกอ่านหนังสือหรือทำการบ้าน จะช่วยให้ลูกมีสมาธิดีกว่าให้เงียบสนิทไปเลย
3. ลดหรืองดดูทีวี
เล่นมือถือ การให้ลูกดูทีวี หรือเล่นมือถือ แท็บเล็ตนานเกินไป ก็ทำให้ลูกขาดสมาธิได้ เพราะภาพจากหน้าจอที่เปลี่ยนไปมาจะกระตุ้นให้จดจ่อมีสมาธิได้น้อยลง ถ้าให้ลูกงดดูทีวีไม่ได้ลองปรับเวลาให้ลูกดูทีวีหรือเล่นมือถือ แท็บเล็ตเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ต่อวัน ประมาณวันละ 30-45 นาทีต่อวันพอ และชวนลูกทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน
4. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารก็สำคัญกับสมาธิของลูก ควรหลีกเลี่ยงขนมขบเคี้ยว น้ำหวาน หรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งส่งผลต่อสมองและการเรียนรู้ของลูก ควรให้ลูกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ไข่ ถั่ว นม และผักผลไม้
5. กำหนดเป้าหมายสั้นๆ
กำหนดเป้าหมายสั้น ๆ ในผู้ใหญ่มีสมาธิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 42 นาที แต่สมาธิในเด็กจะสั้นกว่าผู้ใหญ่ อาจจะอยู่ที่ 15-20 นาที ดังนั้นถ้าจะให้ลูกมีสมาธิทำอะไรควรกำหนดเป้าหมาย หรืองานให้ลูกทำในระยะเวลาสั้น ๆ ที่คาดว่าลูกจะทำได้ เช่น ถ้าให้ทำการบ้านอาจจะให้ลูกทำแค่ 1 บทเรียนสั้น ๆ หรือให้วาดรูป ระบายสี 1 หน้า เพราะยิ่งพยายามบังคับให้ลูกทำเกินเวลาไป สมาธิจดจ่อของลูกก็ยิ่งน้อยลง และอาจทำให้รู้สึกไม่ชอบการเรียนได้ค่ะ