โนโรไวรัส ไวรัสระบาดที่ทำให้เด็กและผู้ใหญ่ท้องเสียรุนแรง และติดต่อกันง่ายมาก
โนโรไวรัสไม่ใช่โรคใหม่อะไร เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง มักพบในเด็กเล็กบ่อยครั้งระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายยังไม่ดีพอเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ และเด็กยังไม่มีความระมัดระวังเรื่องสุขอนามัยหรือการหยิบจับอาหารหรือสิ่งของเข้าปาก นอกจากนี้โนโรไวรัสยังเป็นโรคที่สามารถติดต่อหรือเป็นได้ตลอดทั้งปี แต่จะระบาดหนักในช่วงหน้าหนาว
การติดเชื้อท้องเสียโนโรไวรัส (Norovirus) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการอักเสบเฉียบพลันในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยที่สุดในโลก จึงมักจะพบการระบาดในโรงเรียนที่มีเด็กอยู่รวมกันเยอะ ๆ โดยเชื้ออาจมีการปนเปื้อนในอาหารหรือน้ำดื่ม เป็นต้น
ส่วนใหญ่มักมีอาการอาเจียน ปวดท้องและท้องเสีย ภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังทานอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อนี้ หรือแม้แต่การสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งจากผู้ป่วยรายอื่นๆก็สามารถติดได้ และอาการท้องเสียมักจะดีขึ้นภายใน 24-72 ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการป่วย
แม้ว่าอาการคลื่นไส้อาเจียนจะดูรุนแรงพอสมควร แต่การตรวจร่างกายมักจะไม่มีอาการปวดเฉพาะที่หรือปวดเกร็งของหน้าท้องในการตรวจร่างกาย ทำให้พอวินิจฉัยแยกโรคจากสาเหตุอื่น ๆ ที่มีอาการและอาการแสดงที่คล้ายกัน เช่น ภาวะลำไส้กลืนกัน ไส้ติ่งอักเสบ การติดเชื้ออาหารเป็นพิษด้วยเชื้ออื่น ๆ
สำหรับรายที่มีอาการอาเจียนและถ่ายเป็นน้ำเยอะ ผู้ป่วยอาจมีอาการของการขาดน้ำ เช่น มีไข้ ดูเพลียมาก มีชีพจรเบาเร็ว และมีความดันโลหิตต่ำได้
ผู้ป่วยที่จะมีโอกาสเกิดอันตรายจากการขาดน้ำได้แก่ ผู้ป่วยเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆอยู่แล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ
โนโรไวรัสเป็นโรคที่ติดต่อง่ายมาก การป้องกันโดยทั่วไปคือการใส่ใจในสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ จะช่วยลดปัญหาการติดเชื้อนี้ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : นพ. ประสงค์ พฤกษานานนท์ คลินิกเด็ก ดอท คอม, ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพฯ