นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำหนังสือส่งถึงผู้เกี่ยวข้องเพื่อขอความเห็นในการปรับฉลากยา หลังพบอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาฟ้าทะลายโจร อาทิ ภาวะช็อก (Anaphylactic Shock) ผื่นภูมิแพ้ (Anaphylactic Reaction) ภาวะการตอบสนองของภูมิคุ้มกันไวเกิน (Hypersensitivity) ที่ค่อนข้างรุนแรงต่อเนื่องกัน แต่ยังมีจำนวนน้อยราย ว่า จากการวิจัยทั้งทางห้องปฏิบัติการ และวิจัยในคนมาแล้ว พบว่าฟ้าทะลายโจรมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของทางเดินหายใจส่วนบนได้ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงตับ ลดอาการเจ็บคอ และลดอาการไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส โดยหากเป็นไข้หวัดรับประทานยาฟ้าทะลายโจรทันที จะช่วยลดระยะเวลาการป่วยลง จากประมาณ 3-4 วัน อาจเหลือ 1-2 วัน แต่ถ้ารับประทานแล้ว 3-4 วันยังไม่หาย ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจจะเป็นไข้หวัดจากเชื้อแบคทีเรีย
ข้อดีของยาฟ้าทะลายโจร เมื่อเทียบกับยาแก้หวัดแผนปัจจุบัน คือไม่ทำให้ง่วงซึม และไม่ทำให้ดื้อยา แต่ไม่ควรรับประทานคู่กับกลุ่มยาที่มีฤทธิ์ในการลดไข้ เพราะอาจจะไปเสริมหรือลดฤทธิ์ของยาบางตัว ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกินไปเนื่องจากจะมีผลทำให้ตับและไตทำงานหนัก นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องการแพ้ยาเกิดขึ้นได้กับยาทุกประเภท ทั้งยาแผ่นปัจจุบันหรือยาสมุนไพร โดยอาการได้ อาทิ ผื่นแดง ปากบวม ตัวบวม หรือถ้าแพ้มากๆ จะทำให้เกิดภาวะช็อกหรืออาจเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ฟ้าทะลายโจรก็ถือเป็นยา คนที่รับประทานเข้าไปมีโอกาสแพ้ยาได้ทั้งสิ้น เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับยาทุกตัว แต่ฟ้าทะลายโจรมีรายงานการแพ้น้อยราย ที่กังวลเพราะหาซื้อมารับประทานง่ายเลยต้องออกมาเตือน คนที่มีประวัติแพ้ยา คนแพ้อะไรง่าย กินแล้วแพ้มีผด ผื่นแดง คัน ก็ไม่ควรรับประทาน ส่วนในหญิงตั้งครรภ์นั้น ไม่แนะนำเลย เพราะไม่เคยวิจัยว่ามีผลต่อทารกอย่างไร
ทั้งนี้หลักการใช้ยาที่ถูกต้อง คือ
1.ใช้เมื่อจำเป็น อย่างฟ้าทะลายโจรจะใช้เมื่อเป็นหวัด
2.ต้องรู้ว่าตัวเองแพ้ยาหรือไม่
3.เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปีต้องระมัดระวัง เพราะมีการความต้านทานต่อการแพ้ยาได้ไม่มาก
4.ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ การที่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากมีการศึกษาในหนูทดลองพบว่าน้ำต้มฟ้าทะลายโจรมีผลทำให้หนูแท้งได้
ที่มา dailynews