เรียนนานาชาติ กลัวลูกมั่นใจเกินไป!
คุณแม่หลายคนที่ต้องการให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติ เพราะจะได้เก่งภาษาอังกฤษ แต่ก็กังวลว่าสภาพแวดล้อมที่มีนักเรียนหลายเชื้อชาติ จะทำให้ลูกมั่นใจในตัวเองมากเกินไปจนกลายเป็นคนไม่เคารพผู้ใหญ่ ก้าวร้าว แล้วแบบนี้ควรเลือกโรงเรียนแบบไหนให้ลูกดี
ในการเลือกโรงเรียนให้กับลูกนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของพ่อแม่เป็นสำคัญค่ะ ว่าต้องการให้ลูกก้าวเดินก้าวแรกไปในทิศทางไหน เพราะเด็กสามารถปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนได้ทุกแนว หากพ่อแม่สนใจให้ลูกเรียนในโรงเรียนนานาชาติ แต่กังวลเรื่องพฤติกรรมของลูกในสภาพแวดล้อมที่มีเด็กหลายเชื้อชาตินั้น ขอให้วางใจว่าโรงเรียนทุกโรงเรียนต่างมีนโยบายและแนวทางในการพัฒนาเด็กให้เป็นคนดีของสังคม และมีพฤติกรรมที่เหมาะสมเหมือนๆ กันทุกโรงเรียน ไม่ว่าโรงเรียนนั้นจะเป็นโรงเรียนนานาชาติหรือโรงเรียนไทยก็ตาม
สิ่งสำคัญที่สุดต่อลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของลูก ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่โรงเรียนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสภาพแวดล้อมที่บ้านและการเลี้ยงดูของพ่อแม่ตลอดจนบุคคลในครอบครัว
เด็กมีเวลาอยู่ที่บ้านนานกว่าอยู่โรงเรียน หากพ่อแม่ปลูกฝังมารยาทที่ดีให้กับลูกแต่เนิ่นๆ ให้ความรักความใกล้ชิดกับลูกตั้งแต่เล็ก แสดงให้ลูกเห็นถึงตัวอย่างที่ดี ลูกก็จะซึมซับสิ่งเหล่านี้ไปเองไม่ว่าจะอยู่โรงเรียนไหนก็ตามค่ะ
เด็กที่เรียนในโรงเรียนนานาชาตินั้นแน่นอนว่าจะเก่งภาษาอังกฤษ และภาษาอื่นๆ มีความมั่นใจในตนเอง กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ซึ่งเป็นข้อดี แต่หากกังวลว่าข้อดีนี้จะเปลี่ยนไปเป็นความก้าวร้าว ไม่เคารพผู้ใหญ่ พ่อแม่สามารถป้องกันได้แต่เนิ่นๆ ดังนี้
- ในการปลูกฝังลูกให้รู้จักความเป็นไทย สามารถสอนมารยาทไทยให้กับลูกที่บ้านได้ตลอดเวลา ทั้งการไหว้ การกราบอย่างถูกต้อง การพูดจาไพเราะมีหางเสียง เป็นต้น ถ้าเน้นเรื่องเหล่านี้ให้ลูกเห็นว่าเป็นสิ่งที่พึงกระทำอย่างจริงจัง พ่อแม่เองก็ปฏิบัติเป็นตัวอย่าง ลูกจะเห็นความจำเป็นที่ต้องทำตามค่ะ
- เรื่องความเคารพต่อผู้ใหญ่นั้น พ่อแม่สามารถแสดงตัวอย่างให้ลูกๆ เห็นว่าตนเองแสดงความรักและความเคารพต่อ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย หรือผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ อย่างไร ยิ่งลูกยังเล็กยิ่งสอนง่ายค่ะ
- สำหรับเรื่องความก้าวร้าวของลูกนั้น ให้เริ่มต้นจากการสอนให้ลูกควบคุมความโกรธ หากลูกโกรธ พ่อแม่ควรพูดจากับลูกอย่างใจเย็น สอบถามลูกว่าโกรธเพราะอะไร อาจใช้การโอบกอดเพื่อแสดงความรักอย่างง่ายๆ ให้ลูกรับรู้ว่าพ่อแม่รักลูกเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และสิ่งต่างๆ จะผ่านพ้นไปได้หากพูดคุยกันดีๆ แล้วค่อยๆ ปลอบให้ลูกสงบสติอารมณ์ สอนลูกว่าไม่ผิดที่จะมีอารมณ์โกรธ แต่สิ่งที่ลูกไม่ควรทำคือ การแสดงความโกรธออกมาในทางก้าวร้าวรุนแรง ต้องพูดจากันให้เข้าใจด้วยเหตุผลอย่างสันติ
- สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก หากพ่อแม่แสดงความก้าวร้าว ตวาดเสียงดัง เอะอะฉุนเฉียว ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ลูกอาจเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ควรเอาเยี่ยงอย่างเพราะทำแล้วสามารถควบคุมคนอื่นได้ แล้วในที่สุดก็จะกลายเป็นเด็กก้าวร้าวค่ะ
ไม่ว่าลูกจะอยู่โรงเรียนใดก็ตาม สำคัญที่สุดคือความรักความเอาใจใส่ของพ่อแม่ หากพ่อแม่ให้ความใกล้ชิดสนิทสนม ทำให้ลูกรู้สึกไว้วางใจและสบายใจที่จะพูดคุยเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังแล้วล่ะก็ ถึงแม้ลูกจะเป็นคนมีความมั่นใจสูง แต่ถ้าเขายังเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง ก็ถือว่าลูกยังอยู่ในสายตาของพ่อแม่เสมอค่ะ