ไขมันทรานส์ หรือ Transfat เป็นกรดไขมันชนิดหนึ่ง โดยเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว สามารถพบได้จากธรรมชาติ โดยเฉพาะไขมันที่อยู่ในเนื้อสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัว ควาย (รวมไปถึงน้ำนมจากสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ด้วย) เนื่องจากสัตว์ประเภทนี้มีเอนไซม์ที่ไปทำปฏิกิริยากับกรดไขมันไม่อิ่มตัว ทำให้ไขมันไม่อิ่มตัวเกิดเป็นไขมันทรานส์ขึ้นมา แต่ไขมันทรานส์ที่พบจากธรรมชาติก็ถือว่ามีจำนวนน้อยมาก
แต่ไขมันทรานส์ที่ถูกพบได้มากมักจะมาจากกระบวนการผลิตอาหาร ที่มีการเติมไฮโดรเจนบางส่วนลงไปในน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันพืช ไขมันพืช เพื่อให้น้ำมันมีสภาพแข็งขึ้น หรือเป็นของกึ่งเหลว โดยไขมันทรานส์จากกระบวนการเติมไฮโดรเจนจะพบได้ในอุตสาหกรรมเนยเทียม หรือเนยขาว มาร์การีน ครีมเทียม เป็นต้น ข้อมูลจาก "กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข"
ไขมันทรานส์มีผลทำให้ไขมันชนิดเลวในร่างกาย (LDL) และไตรกลีเซอร์ไรด์เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้ไขมันชนิดดี (HDL) ในร่างกายมีปริมาณลดลง ทำให้ร่างกายมีปริมาณไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูง นำไปสู่โรคหลอดเลือดแดงแข็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ รวมไปถึงโรคเส้นเลือดอุดตันในสมองได้
จึงมีข้อแนะนำว่าไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันทรานส์เกินร้อยละ 1 ของพลังงาน ซึ่งพลังงานเฉลี่ยที่ควรได้รับอยู่ที่ 2,000 กิโลแคลอรีต่อวันในเพศชาย ก็แสดงว่าไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันทรานส์เกิน 2.2 กรัมต่อวัน หรือคิดเป็น 0.5 กรัม (500 มิลลิกรัม) ต่อหน่วยบริโภค
ยกตัวอย่างมา 25 เมนู ที่น่าจะเป็นอาหารโปรดของหลายๆ บ้าน ที่อาจจะทานเป็นประจำเลย พอได้รู้อันตรายแล้วก็ต้องงดทาน หรือทานในปริมาณที่กำหนดไว้นะคะ และอย่าลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ สวทช.