เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมติดคอ พ่อแม่ต้องปฐมพยาบาลให้ถูกวิธีค่ะ

เทคนิครับมือเมื่อสิ่งแปลกปลอมติดคอลูก

คงจะดีไม่น้อยเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับลูก พ่อแม่สามารถช่วยลูกได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรอให้ถึงมือหมอ อย่างสิ่งแปลกปลอมติดคอเด็กเล็กเหตุการณ์ที่เกิดบ่อยครั้ง เราจึงนำเทคนิคง่ายๆ ที่คุณแม่สามารถช่วยลูกด้วยตัวคุณแม่เองมาฝากค่ะ  

1.เหรียญติดคอ

• กรณีลูกมีสติ

คุณแม่ไม่ควรใช้นิ้วล้วงออกมาเอง เพราะเหรียญอาจไหลลึกเข้าไปลึกกว่าเดิมจนเป็นอันตรายได้
คุณแม่ควรช่วยลูกด้วยการยืนหรือคุกเข่าจากด้านหลังลูก แล้วใช้มือทั้งสองของคุณแม่โอบจากด้านหลัง มือด้านหนึ่งกำเป็นกำปั้นอยู่ใต้ลิ้นปี่เหนือสะดือ แล้ววางมืออีกด้านทับบนกำปั้น ออกแรงกดมือทั้งสองเข้าไปในท้อง โดยดันมือขึ้นมาด้านบนเหนือลิ้นปี่ กดซ้ำ เรื่อยๆ จนสิ่งแปลกปลอมหยุดออกมาจากปาก
 

• กรณีลูกหมดสติ

หากทำซ้ำๆ หลายรอบสิ่งแปลกปลอมยังไม่ออก หรือหมดสติ ให้คุณแม่ช่วยหายใจด้วยการบีบจมูกแล้วเป่าปาก หรือรีบพาลูกไปโรงพยาบาลโดยทันที

2. ก้างปลาติดคอ 

ก้างปลาติดคอ ปฐมพยาบาล ห้ามกินกล้วยหรือข้าวเหนียวเด็ดขาดเพราะจะยิ่งทำให้ก้างเข้าไปบาดลึกในคอลูก ห้ามกินน้ำมะนาวหรือน้ำสับปะรด เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบบริเวณบาดแผล ดื่มน้ำเปล่ากลั้วคือสักพัก ถ้ายังรู้สึกเจ็บคออยู่ต้องรีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจร่างกายและเอาก้างปลาออก เพราะก้างปลาเหล่านั้นอาจเป็นก้างขนาดใหญ่ หรือก้างไปทิ่มส่วนที่สำคัญอย่างเช่น ต่อมทอนซิล หลอดอาหาร โคนลิ้น เป็นต้น

3. ของเล่นชิ้นเล็กๆ  เมล็ดผลไม้  ลูกอม  ลูกกวาด  

ให้รีบจับลูกนอนคว่ำและตบแรงๆ บริเวณทรวงอกด้านหลังระหว่างกระดูกสะบัก จนอาหารกระเด็นหลุดออกมา ห้ามใช้นิ้วมือล้วงช่องปาก หรือจับลูกห้อยศีรษะและตบหลังเป็นอันขาด เพราะของเล่นหรือลูกอมจะตกมาอุดที่กล่องเสียงจนขาดอากาศหายใจได้

หากลูกสำลักแล้วหายใจไม่ออก ริมฝีปากเขียว ต้องรีบช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยให้ลูกนั่งหรือยืนโน้มตัวไปทางด้านหน้าเล็กน้อย คุณแม่ยืนทางด้านหลัง ใช้แขนสอดสองข้างโอบลำตัว กำมือวางไว้ที่ใต้ลิ้นปี่ ดันมือลงตรงตำแหน่งลิ้นปี่อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดแรงดันในช่องท้องดันให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมา

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการช่วยลูกจากภาวะฉุกเฉินดังกล่าวนั้น คุณแม่จะต้องตั้งสติให้ดีๆ รีบช่วยเหลือลูกโดยเร็วที่สุดอย่างถูกวิธี เพราะหากสมองของลูกขาดออกซิเจนเพียง 4 นาที ก็อาจทำให้กลายเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายนิทราตลอดไป


สิ่งสำคัญคือ เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้พ่อแม่ต้องตั้งสติ รีบช่วยเหลือลูกอย่างเร่งด่วนและถูกวิธี นอกจากนี้ต้องหมั่นเช็กไม่ให้มีของชิ้นเล็กๆ อยู่ใกล้มือเด็ก หรือสอนเขาว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอันตรายจะทำให้ลูกเจ็บ ถ้าลูกนำเข้าปาก แล้วลูกจะคี่อยๆ ซึมซับและไม่นำสิ่งของเหล่านี้เข้าปาก เพราะเขารู้ว่ามันจะทำให้พวกเขาเจ็บตัว

อ้างอิง : Rama Chanel , โรงพยาบาลเปาโล