ชามนี้ที่แม่เลือก ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก พร้อม 5 สารอาหารสำคัญ เพราะทุกการเติบโตเล็ก ๆ ของลูก ยิ่งใหญ่เสมอ

โจ๊กเด็ก น่าจะเป็นเมนูโปรดของเด็ก ๆ วัยกำลังกินหลายบ้านเลย เพราะนอกจากรสชาติที่ไม่จัดจ้านแล้ว ยังเหมาะเป็นอาหารเสริมตามวัยที่ช่วยให้เด็กเคี้ยวกลืนได้ง่าย

สำหรับคุณแม่ที่ทำโจ๊กให้ลูกกินเองอาจจะเติมเนื้อสัตว์และผักชนิดต่าง ๆ ลงไปเพิ่ม แต่ถ้าคุณแม่ไม่สะดวก ไม่ค่อยมีเวลาก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่พัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ ณ ตอนนี้คุณแม่สามารถหาตัวช่วยได้ง่าย ๆ โจ๊กสำหรับเด็กเล็กในท้องตลาดตอนนี้ เป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ

ทริคในการเลือกโจ๊กสำหรับเด็กเล็กที่วางขายในท้องตลาด ให้เหมาะกับความต้องการของเจ้าตัวน้อย

1. ควรเลือกโจ๊กสูตรสำหรับเด็กโดยเฉพาะที่ขึ้นทะเบียนตำรับอาหารกับ อย. สังเกตง่าย ๆ ที่บรรจุภัณฑ์จะมี เลข อย. ปรากฏอยู่

2. ชื่อของสินค้าต้องระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเล็ก และระบุว่าเหมาะสมกับเด็กอายุเท่าไหร่ เนื่องจากเด็กเล็กกำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนา การบดเคี้ยวและกลืน ควรมีเนื้อสัมผัสที่เหมาะสมค่ะ

3. ควรมีสารอาหารหลากหลาย 

ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อาหารเสริมสำหรับเด็ก พร้อม 5 สารอาหารสำคัญ

เด็ก ๆ มีการเจริญเติบโตขึ้นในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะเด็กเล็กที่คุณพ่อคุณแม่ จะเห็นพัฒนาการและความสามารถใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นของเขาได้เรื่อย ๆ ในแต่ละช่วงอายุ ดังนั้นในแต่ละวันเด็ก ๆ ต้องการสารอาหารที่หลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม ให้ทานอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ และสำหรับคุณแม่ที่มองหาโจ๊กเด็กให้ลูกอยู่ แม่ บก. ขอแนะนำซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก สูตรไก่ ผัก และแครอท ที่มีส่วนผสมของ 5 สารอาหารสำคัญ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้เด็ก ๆ ได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ไม่เติมน้ำตาลทราย แถมวิธีการเตรียมก็ไม่ยุ่งยาก สะดวก และประหยัดเวลาคุณแม่ด้วยค่ะ

ข้อมูลโภชนาการข้างกล่อง ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊กผสมไก่ ผัก และแครอท ใน 1 ถ้วย/20 กรัม เด็กจะได้รับสารอาหารในปริมาณดังต่อไปนี้

พลังงาน 84 กิโลแคลอรี

ไขมัน 2 กรัม

โอเมก้า 3 44 มิลลิกรัม

โอเมก้า 6 360 มิลลิกรัม

โปรตีน 3.4 กรัม

คาร์โบไฮเดรต 13.2 กรัม

วิตามินเอ 60 ไมโครกรัม ในรูปของเรตินอล

วิตามินดี 40 หน่วยสากล (IU)

วิตามินอี 1 มิลลิกรัม

วิตามินซี 13 มิลลิกรัม

วิตามินบี 1 0.1 มิลลิกรัม

วิตามินบี 2 0.08 มิลลิกรัม

ไนอะซิน 1 มิลลิกรัม

วิตามินบี 6 0.1 มิลลิกรัม

กรดโฟลิค 6 ไมโครกรัม

กรดแพนโทธินิค 0.2 มิลลิกรัม

วิตามินบี 12 0.1 ไมโครกรัม

ไบโอติน 1.6 ไมโครกรัม

โพแทสเซียม 110 มิลลิกรัม

แคลเซียม 88 มิลลิกรัม

ฟอสฟอรัส 52 มิลลิกรัม

แม็กนีเซียม 10 มิลลิกรัม

เหล็ก 3.2 มิลลิกรัม

ไอโอดีน 8 ไมโครกรัม

สังกะสี 0.7 ไมโครกรัม

ตัวโจ๊กจะเป็นผงละเอียด มีผักอบแห้งและข้าวพองผสมอยู่เพิ่มเท็กเจอร์ให้การเคี้ยวสนุกมากขึ้น ช่วยฝึกพัฒนาการการเคี้ยวและกลืนของลูกได้ด้วย

โจ๊ก 2.5 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำต้มสุก 60 มล. ผสมให้เข้ากัน รอประมาณ 3 นาที ก็ได้โจ๊กเนื้อเนียนแสนอร่อยแล้วค่ะ

หากคุณแม่ผสมซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก ให้ลูกแล้วเจ้าตัวกินไม่หมดควรทิ้งส่วนที่เหลือทุกครั้งค่ะ ส่วนซองโจ๊กที่เปิดแล้วควรปิดซองให้แน่น ใส่กล่องมีฝาปิดเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น และควรกินให้หมดภายใน 30 วันค่ะ

สำหรับแม่ ๆ ที่สนใจ ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก สามารถหาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือร้านค้าออนไลน์ที่ Shopee & Lazada

ใบอนุญาตเลขที่ ฆฮ.1841/2567

โจ๊กเด็ก อาหารเสริมเด็กตามวัย พร้อมสารอาหาร 5 หมู่ เหมาะสำหรับลูกน้อย

อาหารหลัก 5 หมู่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ โดยเมื่อพ้น 6 เดือนไปแล้ว เมื่อระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นประกอบกับร่างกายของเด็กทารกต้องการพลังงานและสารอาหารมากขึ้น การดื่มนมแม่อย่างเดียวจึงไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย คุณหมอจึงแนะนำให้เเด็กกินนมแม่ต่อเนื่อง ควบคู่กับอาหารตามวัยที่เหมาะสม

อาหารตามวัย สำคัญอย่างไร

เพราะร่างกายของเด็กไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ ระบบย่อยอาหารของเด็กทารกยังทำงานได้ไม่ดี อีกทั้งการใช้พลังงานและการเคลื่อนไหวร่างกายยังแตกต่างกัน รวมถึงความสามารถในการเคี้ยวและกลืนก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าผู้ใหญ่ค่ะ นอกจากนี้การให้ลูกกินอาหารตามวัยยังมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการกินของเด็ก ๆ ด้วย ดังนั้นการให้ลูกกินอาหารตามวัยจึงเป็นเรื่องสำคัญค่ะ

กรมอนามัยแนะนำให้พ่อแม่เริ่มอาหารเสริมสำหรับเด็กหลัง 6 เดือนไปแล้ว โดยให้กินอาหารวันละ 1 มื้อ ควบคู่กับนมแม่ ส่วนอาหารควรเป็นข้าว 2 ช้อนกินข้าว เนื้อสัตว์ 1 ช้อนกินข้าว ผัก 1/2 ช้อนกินข้าว น้ำมัน 1/2 ช้อนชา และผลไม้ ประมาณ 1 ชิ้นคำ

ตัวอย่างเช่น ข้าวบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับ ปลาต้มบด ตับบด ไข่แดงบด อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ผักต้มเปื่อยบดละเอียด 1/2 ช้อนกินข้าว และน้ำมันพืชครึ่งช้อนชาผสมกัน แล้วเสริมผลไม้บดละเอียด อย่างมะละกอสุก 1 ชิ้น กล้วยน้ำว้าสุกครูด 1/2 ผล หรือมะม่วงสุก 1 ชิ้น เป็นต้น

เมื่อลูกครบ 7 เดือน ร่างกายต้องการพลังงานมากขึ้น ให้เพิ่มปริมาณอาหารตามคำแนะนำในสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก และส่วนผสมต่าง ๆ ก็ให้มีลักษณะเนื้อหยาบขึ้นเล็กน้อย เพื่อฝึกพัฒนาการการเคี้ยวกลืนของลูกค่ะ

พอลูกอายุ 8-9 เดือน สามารถเปลี่ยนจากข้าวต้มบดหยาบเป็นข้าวสวยหุงนิ่ม ๆ บดหยาบได้แล้ว ตอนนี้นอกจากเพิ่มปริมาณข้าวสวยหุงนิ่ม ๆ บดหยาบเป็นมื้อละ 4 ช้อนกินข้าวแล้ว ควรเพิ่มมื้ออาหารหลักเป็น 2 มื้อต่อวันด้วยค่ะ เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อวัน

เมื่อลูกอายุ 10-12 เดือน ตอนนี้สามารถให้ลูกกินอาหารครบ 3 มื้อได้แล้วค่ะ เด็กบางคนฟันกรามเริ่มขึ้นแล้ว สามารถเคี้ยวและกลืนอาหารได้ดีขึ้น ตอนนี้ให้กินข้าวสวยหุงนิ่ม ๆ บดหยาบ พร้อมกับผักและเนื้อสัตว์ที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ได้เลย  

ครบขวบ 1 ปีแล้วเจ้าเด็กจะเอ็นจอยการกินอาหารมากขึ้นค่ะ เพราะเขาสามารกินอาหารได้เหมือนพ่อกับแม่เลย แต่อาจจะเน้นอาหารที่มีเนื้อสัมผัสอ่อนนิ่ม และมีชิ้นเล็ก เช่น ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยวน้ำ โจ๊ก ข้าวต้ม เป็นต้น

ให้ลูกกินโจ๊กได้มั้ย

โจ๊กถือเป็นอาหารยอดนิยมอย่างหนึ่งที่พ่อแม่นิยมป้อนเด็ก เพราะนอกจากเนื้อสัมผัสที่บดละเอียด ง่ายต่อการเคี้ยวกลืนแล้ว รสชาติยังเหมาะกับเด็ก ๆ อีกด้วย แต่เนื่องจากส่วนประกอบของโจ๊กที่มีเพียงข้าวต้มบดกับเนื้อสัตว์และผักไม่กี่อย่างเลยทำให้เกรงว่าถ้าป้อนโจ๊กให้ลูกแล้วเจ้าตัวเล็กอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พ่อแม่สามารถป้อนโจ๊กให้ลูกกินได้ค่ะ แต่ในวัย 6 – 12 เดือนนั้น โจ๊กจะเป็นอาหารเสริมเท่านั้น และยังคงให้นมเป็นอาหารหลัก และเมื่อลูกอายุครบ 12 เดือนขึ้นไป ลูกน้อยจะมีพัฒนาการในการเคี้ยวและกลืนที่ดีขึ้น สามารถรับประทานอาหารหลัก 3 มื้อ ที่มีเนื้อสัมผัสเหมาะสมกับช่วงวัยได้แล้วค่ะ นมจะกลายเป็นอาหารเสริม ซึ่งโจ๊กก็เป็น 1 ในอาหารหลักที่คุณแม่สามารถป้อนให้ลูกทานได้ แต่ต้องปรับปริมาณและเนื้อสัมผัสให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเค้านะคะ ลูกถึงจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายค่ะ

เลือกโจ๊กอย่างไรให้ลูกได้สารอาหารเพียงพอต่อความต้องการ และเหมาะสมกับช่วงวัย

สำหรับบ้านที่ทำโจ๊กให้ลูกกินเอง สามารถเตรียมส่วนผสมต่าง ๆ ปรุงให้ลูกได้เลย ข้อดีคือพ่อแม่สามารถเลือกวัตถุดิบที่ลูกชอบได้ สามารถเติมสารอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกได้ แต่ข้อเสียอาจจะยุ่งยากและใช้เวลานานในการต้มและเคี่ยวโจ๊ก ทั้งส่วนของข้าว เนื้อสัตว์ และผักให้ได้เนื้อสัมผัสที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยของเด็กน้อย

และก็ยังมีอีกหลาย ๆ บ้าน ที่อาจจะไม่สะดวก หรือมีเวลาในการปรุงอาหารที่จำกัด ก็สามารถซื้ออาหารเสริมตามวัย ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านค้าชั้นนำทั่วไปได้นะคะ แต่ต้องเลือกดี ๆ โดยเลือกอาหารเสริมตามวัย ที่มีมาตราฐาน ผ่าน อย. ระบุชัดเจนว่า เป็นอาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็ก ไม่ใช่อาหารทั่วไปสำหรับผู้ใหญ่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เนื้อสัมผัส และสารอาหารในสินค้านั้น ๆ เหมาะสมกับลูกอันเป็นที่รักของเราจริง ๆ ได้ประโยชน์ในทุก ๆ คำ ที่เขาทานเข้าไป

หากเป็นโจ๊ก ควรเลือกโจ๊กชนิดที่มีสารอาหารหลากหลาย มีผักและเนื้อสัตว์จริง ๆ เป็นส่วนผสม เป็นโจ๊กสูตรสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เช่น โจ๊กเด็กที่มีกระบวนการผลิตเฉพาะ ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ มีส่วนผสมที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตตามวัยของเด็ก ก็ช่วยให้ลูกได้กินโจ๊กที่มีคุณค่าทางโภชนาการแล้วค่ะ

สิ่งสำคัญคือ นอกจากเลือกโจ๊กที่เหมาะสำหรับเด็กแล้ว การให้ลูกกินอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ ดื่มนมวันละ 2 แก้ว ก็ช่วยให้ลูกได้รับโภชนาการที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายตามวัยแล้วค่ะ

คุณพ่อคุณแม่สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโภชนาการในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย รวมถึงเคล็ดลับเกี่ยวกับอาหารเสริมตามวัยของลูกน้อยได้ใน https://www.nestlemomandme.in.th/baby-food-tip-tricks หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ NestleMomAndMe ได้ที่ โทร 1162 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ