ได้ยินคุณหมอสอนว่าเวลาพี่น้องทะเลาะกัน เราต้องเอาพี่ก่อน แบบนี้มิใช่ลำเอียงหรือคะ
ไม่เคยเขียนว่า “ต้องเอาพี่ไว้ก่อน” และไม่เคยบอกว่า “ให้ลำเอียงไปทางพี่” อธิบายใหม่ครับ
ที่เขียนและพูดเสมอคือ
1.เมื่อจะมีน้อง (ไม่ใช่เมื่อทะเลาะกัน) เราควรให้ความสำคัญแก่พี่มากกว่าน้องเล็กน้อย ทำให้คนพี่รู้ตัวว่าเขาจะเป็นคนสำคัญมากสำหรับแม่ เขาเก่งพอจะช่วยแม่ดูแลน้องที่จะเกิดมา ติดดาวนายอำเภอให้คนพี่ แล้วขอให้เขาช่วยนายอำเภอดูแลน้องๆ
ประเด็นคือซื้อใจเขาให้ได้ ให้เกียรติเขาแล้วเขาจะรับเกียรตินั้นไว้ เขาจะไม่เพียงดูแลน้อง เขาจะแบ่งขนม แบ่งของเล่น และเขาจะคอยป้องกันน้องในอนาคตด้วย ทำได้เช่นนี้บ้านจะสงบ พี่รักน้อง น้องเคารพพี่ สองคนจะรักกันไปอีกนาน หากเราทำให้คนพี่รู้สึกว่าพ่อแม่ลำเอียง คราวนี้ปัญหาจะตามมาเป็นพรวน
ที่เขียนเสมอคือพยายามไม่แยกห้องนอนพี่ออกไป หรือให้ไปนอนกับคนอื่น ในวันที่น้องเกิดมา
อีกเรื่องที่เขียนและพูดเสมอคือ
เมื่อพี่น้องทะเลาะกัน เราควรนั่งดูไปก่อน ให้เวลาเขาสองคนเรียนรู้นิสัยใจคอกัน แล้วปรับตัวเข้าหากัน ให้พี่รู้ว่าน้องมันขี้แย ขี้ฟ้อง ให้น้องรู้ว่าพี่เฉไฉเจ้าเล่ห์เพทุบาย ก็แค่นิสัยไม่เหมือนกันและยังยอมรับกันไม่ได้ ปล่อยพวกเขาจัดการกันเอง ถ้าเราเข้าไปแทรกคนหนึ่งจะรู้สึกได้ทันทีว่าเราลำเอียงอย่าลืมว่าก่อนเกิดเหตุการณ์เราไม่เห็นด้วยตา ทันทีที่เราฟังคนหนึ่ง อีกคนหนึ่งจะงัดเล่ห์กลออกมาจนได้ ทั้งที่ในตอนต้นไม่มีใครเป็นฝ่ายผิดเลย สองคนกำลังเล่นด้วยกันและปรับตัว
เตือนตนเองเสมอว่าเรามีเวลาเป็นสิบปีที่เขาจะได้ทะเลาะกันอีกหลายครั้ง ยินยอมให้อีกฝ่ายเอาเปรียบ ก็รักไงถึงได้ยอม ให้อีกฝ่ายรู้น้ำใจของอีกฝ่าย ให้พวกเขาได้ร้องไห้ด้วยกัน เสียใจที่ทำร้ายกัน เราบังคับใครรักใครไม่ได้ มีแต่ให้พวกเขาร่วมทุกข์ร่วมสุขกอดคอกันร้องไห้จึงจะรักกัน
เราจะเข้าไปหยุดเมื่อเขาตีกันทำร้ายร่างกายกัน หยุดทันทีแต่ไม่ตัดสินอยู่ดี แยกวงเขาออกจากกัน บอกทั้งสองคนว่าหายโกรธแล้ว ออกมาเล่นด้วยกันใหม่นะ แม่ชอบ เอาเท่านี้ เขาก็จะได้เรียนรู้ว่าคนเราโกรธได้ หายได้ แต่ตบตีกันนั้นมิได้ เท่านี้เอง
ตอนที่พวกเขาเข้าสู่วัยรุ่นพวกเขาจะรำคาญและเหม็นขี้หน้าได้ด้วย ซึ่งเป็นธรรมชาติของพวกเขา ปล่อยเขาเรียนรู้กัน ทะเลาะกันแล้วดีกันด้วยตนเอง พวกเขาจะทำได้และรักกันมากยิ่งขึ้นไปอีกในตอนท้าย คอยท่องเสมอว่าที่เราอยากให้เป็นคือเมื่อเราตายไป พวกเขายังคงรักกัน งานนี้นานหลายปี
สมมติมีคนหนึ่งชอบแย่งของเล่นอีกคนไม่ยอมเลิกจริงๆ และเรารู้สึกว่าเขาไม่พัฒนาเอาเสียเลย เราสามารถแทรกแซงได้ แต่การแทรกแซงนั้นจำเป็นต้องทำก่อนเกิดเหตุ เราควรไวพอจะเข้ากั้นกลางเมื่อรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะแย่งแน่แล้ว ทั้งนี้เพื่อหยุดเขาให้ทัน ที่สำคัญคือช่วยให้เขาหยุดตัวเองทัน ที่สำคัญยิ่งกว่าคือช่วยให้เขารู้ว่าเขาหยุดตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องแย่งของกันและกันเสมอไป แล้วกล่าวชมทันที
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
จิตแพทย์และนักเขียน ขวัญใจพ่อแม่ชาวโซเชียล