สร้างสมาธิให้ลูกช่วยเพิ่มความสามารถในการจำ
การฝึกสมาธิจะช่วยพัฒนา Working Memory ของลูกได้ โดยเฉพาะเมื่อลูกเริ่มเข้าสู่วัยอนุบาล สมาธิในการเรียนรู้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าลูกมีสมาธิก็จะส่งผลดีต่อการเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวนั่นเอง ทำไมลูกต้องมีสมาธิ
สมาธิมีความจำเป็นกับเจ้าหนูวัยเยาว์มากๆ เพราะมีผลโดยตรงกับสติปัญญาและอารมณ์ของเขา สมาธิจะทำให้เขาสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารและเกิดการเรียนรู้ต่างๆ ได้มาก ซึ่งช่วยพัฒนาสมองและสติปัญญาได้ดี และเมื่อเขาทำสิ่งต่างๆ ได้ดีหรือทำได้สำเร็จ เขาก็จะเกิดความภูมิใจกับตัวเอง หากได้รับคำชมจากคุณพ่อคุณแม่ด้วย อารมณ์ก็จะดียิ่งขึ้นค่ะ ในทางกลับกัน หากเด็กที่มี IQ เท่ากัน แล้วเด็กคนหนึ่งมีสมาธิ แต่อีกคนไม่มี ผลการเรียนก็อาจจะต่างกัน เพราะถ้าเขาไม่มีสมาธิ สติปัญญาที่ใช้ในการเรียนรู้ก็ไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งส่งผลให้อารมณ์ไม่ดีไปด้วย เพราะเขาจะรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง มองตัวเองว่าเป็นคนไม่มีความสามารถ อาจมีอาการต่อต้านก้าวร้าว และมองตัวเองเป็นคนด้อยคุณค่าในที่สุด
ขาดสมาธิขั้นไหน…ผิดปกติ ถ้าลูกของเราขาดสมาธิจนกระทบกับเรื่องเรียนและกิจวัตรประจำวันถือว่าผิดปกติค่ะ เช่น ถ้าไม่มีสมาธิจนทำให้เรียนไม่รู้เรื่อง ใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการอาบน้ำหรือกินข้าว มีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียน เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นเวลาเล่นก็อาจจะเล่นแรง ไปแย่งของเพื่อน ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องรีบพาไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขให้ตรงจุด
เคล็ดลับง่าย ๆ ช่วยสร้างสมาธิ
1. ลดสิ่งกระตุ้น
เช่น การจัดบ้านไม่ให้รกรุงรัง ไม่ซื้อของเล่นให้ลูกเล่นมากเกินไป รวมทั้งการงดดูทีวีหรือเล่นเกมต่างๆ ที่มีแสงสีเสียง เพราะ 2 อย่างนี้เป็นตัวเร้าที่เข้มข้นมาก เมื่อลูกไปเจอสิ่งเร้าที่อ่อนลงก็จะคุมสมาธิไม่ได้เช่น เจอผู้ใหญ่ที่พูดเสียงดังๆ ก็อาจทำให้เขาตื่นตัวและไม่มีสมาธิได้
2. เพิ่มสมาธิด้วยกิจกรรม
การฝึกสมาธิเริ่มได้ตั้งแต่ 2-3 ขวบซึ่งกิจกรรมที่ใช้ต้องขึ้นอยู่กับความสนใจของเด็กเป็นหลัก เช่น ศิลปะ ดนตรี กีฬา และกิจวัตรประจำวัน แต่ต้องไม่เป็นการบังคับ ซึ่ง คุณพ่อคุณแม่ควรอยู่กับเขาตอนทำกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย เพราะหากเขาลุกหนีไปที่อื่นเราอาจบอกลูกว่า “นั่งทำต่ออีกนิดนะลูก” หรือลูกทำแล้วติดขัดเราก็ให้กำลังใจจนกว่าเขาจะทำได้สำเร็จค่ะ
3. แบบอย่างที่ดีจากพ่อแม่
เราสามารถทำเป็นแบบอย่างให้เขาเห็นได้ เช่น การนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ เงียบๆ แค่นี้ก็ทำให้เขาเห็นว่าการมีสมาธิเวลาทำสิ่งต่างๆ เป็นอย่างไรได้แล้ว
4. ทำอย่างต่อเนื่องและเป็นระยะเวลาที่นานพอ
เราต้องกำหนดเวลาในการทำกิจกรรมให้ต่อเนื่องค่ะเพื่อให้เขารับรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นกิจวัตร เป็นสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบ สร้างให้เขารู้จักทำงานให้สำเร็จ และเมื่อเขาทำสำเร็จเราก็อาจชมเชย กอด หรือหอมแก้ม ไม่จำเป็นต้องให้รางวัลที่เป็นวัตถุทุกครั้ง ซึ่งช่วยเรื่องพฤติกรรมให้ลูกทำอย่างต่อเนื่องมากขึ้นค่ะ จริงๆ แล้วทุกกิจกรรมมีประโยชน์ทั้งนั้น เพราะแต่ละกิจกรรมสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนการในด้านต่างๆ และถ้าเป็นสิ่งที่ลูกสนใจก็ยิ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการฝึกสมาธิ เพราะคนเราหากมีความสนใจสิ่งไหนก็จะทำให้มีสมาธิกับสิ่งนั้นมากขึ้น
นอกจากการฝึกสมาธิเพื่อฝึกการจดจำเรื่องราวต่างๆ เรายังมีตัวช่วยดีๆ มาแนะนำคุณแม่ด้วยนะคะ เป็นชุดนิทานเพื่มเสริมทักษะด้านความทรงจำ และฝึกนิสัยรักการอ่านให้กับคุณลูก