พอพ้นขวบแรกเข้าสู่วัยนักสำรวจก็วิ่งวุ่นเคลื่อนไหวชนิดไล่จับกันแทบไม่ทัน ต้องมีสูตรอาหารเพิ่มพลังเตรียมไว้ในมื้อหม่ำของลูกแล้ว เพราะพลังงานไม่เพียงหาได้แค่ในอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเท่านั้น แต่เรายังหาได้จากโปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่อีกด้วย
สารอาหารที่เด็กวัย 1-3 ปีควรได้รับ
-
-
-
- คาร์โบไฮเดรต : มีอยู่มากในข้าว แป้ง ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว หัวมันต่างๆ และน้ำตาล ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วคาร์โบไฮเดรตทุกๆ 1 กรัม จะให้พลังงาน 4 แคลอรี่ หากเราใช้คาร์โบไฮเดรตไม่หมด ร่างกายก็จะสังเคราะห์เป็นไขมันเก็บไว้เป็นพลังงานสำรอง แต่ถ้ามากไปก็เหลือเกินสำรองกลายเป็นอ้วนได้
- โปรตีน : แหล่งโปรตีนสำคัญๆ ได้แก่ เนื้อสัตว์ต่างๆ ไข่ ถั่ว ธัญพืช และนมสด เป็นต้น เป็นขุมพลังที่สร้างการเจริญเติบโตตั้งแต่กระดูก กล้ามเนื้อ ไปจนถึงเส้นผม คอยสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ชำรุด ควบคุมการทำงานของปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย
- ไขมัน : เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานสูงสุด จำเป็นต่อการเจริญเติบโต เป็นที่ละลายวิตามิน เอ ดี อี และเค ทั้งนี้ ยังเป็นส่วนประกอบของระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ระบบประสาท เนื้อเยื่อ และผนังเซลล์อีกด้วย สุดท้ายไขมันใต้ผิวหนังยังช่วยลดการกระทบกระเทือนของอวัยวะต่างๆ ด้วย
- แร่ธาตุ : เนื้อเยื่อแต่ละชนิดต้องการแร่ธาตุต่างๆ กันไป เช่น กระดูกต้องการแคลเซียม เซลล์กล้ามเนื้อต้องการโพแทสเซียมและแมกนีเซียม เลือดต้องการเกลือโซเดียม เด็กๆ ที่วิ่งเล่นจนเหนื่อยอ่อน จะสูญเสียสังกะสีทางเหงื่อและปัสสาวะด้วยเช่นกัน สังกะสีมีมากใน อาหารทะเล ไข่ จมูกข้าวสาลี ส่วนแหล่งอาหารที่มีแร่ธาตุอื่นๆ สูงได้แก่ เนื้อสัตว์ต่างๆ ผัก ถั่ว และผลไม้โดยเฉพาะกล้วย
ตารางมาตรฐานส่วนสูงหรือน้ำหนักของเด็กวัย 1-3 ปี
อายุ |
เพศชาย |
เพศหญิง |
ปี
|
เดือน |
น้ำหนัก (กก.)
|
ส่วนสูง (ซม.)
|
น้ำหนัก (กก.) |
ส่วนสูง (ซม.)
|
1 |
0 |
8.3-11.0 |
71.5-79.7 |
7.7-10.5 |
68.8-78.9 |
2 |
0 |
10.5-14.4 |
82.5-91.5 |
9.7-13.7 |
80.8-89.9 |
3 |
0 |
12.1-17.2 |
89.4-100.8 |
11.5-16.5 |
88.1-99.2 |
เด็กเบื่ออาหาร
สาเหตุที่เด็กเบื่ออาหารบางประเภทนั้นมันมีที่มา อาหาร 5 อันดับสาเหตุที่ลูกไม่กินนั้นได้แก่
-
-
-
- ข้าว เด็กๆ นี่ขี้เบื่อกินข้าวอยู่ทุกวันๆ ลูกก็ไม่อยากจะกินเพราะเบื่อ
- ไข่ ที่เด็กๆ ไม่กินก็เพราะก็กลิ่นคาวเหมือนปลานั่นแหละค่ะ โดยเฉพาะไข่ตุ๋นหรือไข่ต้ม
- ผัก เพราะส่วนใหญ่ผักจะมีกลิ่นเหม็นเขียวเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งถ้าผักชนิดไหนที่มีเสี้ยนเยอะลูกก็จะปฏิเสธทันที
- ปลา หากคุณแม่ไม่มีเทคนิคการปรุงที่ดี กลิ่นคาวของปลาจะติดจมูก ทำให้ลูกไม่ยอมกิน
- เนื้อสัตว์ ส่วนใหญ่จะค่อนข้างเหนียวและเคี้ยวยาก ด้วยความที่ฟันของลูกยังไม่สามารถบดเคี้ยวได้ดีพอ ลูกเลยไม่อยากกิน ยิ่งถ้าคุณแม่ทำชิ้นใหญ่เกินความสามารถที่จะเคี้ยวได้ พอฟันกระทบกับเนื้อเหนียวๆ ลูกก็จะคายทันที
เทคนิคช่วยให้เด็กทานอาหาร
-
-
-
- ตกแต่งเติมสีสัน - ดัดแปลงส่วนผสม หน้าตา และสีสันของอาหาร รวมถึงการตั้งชื่ออาหารให้ดึงดูดความสนใจจากลูก เช่น ข้าวไข่เจียวธรรมดา ใช้พิมพ์รูปต่างๆ กดให้เป็นรูปร่าง แล้ววางแต่งหน้าบนข้าวสวยแสนอร่อย รวมไปถึงการเพิ่มสีสัน โดยการเปลี่ยนสีข้าวด้วยผักที่มีสีสันแตกต่างกันไป เช่น ข้าวสีเหลืองทองจากฟักทอง ข้าวสีเขียวก็ใช้ใบเตยสดคั้นน้ำ หรือข้าวสีส้มจากแครอต หรือคุณแม่อาจใช้วิธีการใส่ผักที่หั่นเป็นรูปร่างต่างๆ ต้มสุกแล้วหุงรวมลงไปในหม้อ เพื่อเพิ่มคุณค่าสารอาหารและสีสัน หน้าตาอาหารให้น่ากินมากขึ้น
- ดัดแปลงเมนู - ลองพลิกตำราอาหารต่างชาติดูบ้างสิว่า พอจะเอามาดัดแปลงใช้กับเมนูไทยๆ ได้บ้างไหม เช่น ม้วนอาหารที่เป็นแผ่นด้วยการจัดเรียงวัตถุดิบเป็นชั้นๆ แล้วหั่นชิ้นพอคำ ก็จะได้อาหารที่มีลักษณะคล้ายข้าวปั้นญี่ปุ่น หรือใช้วิธีการดัดแปลงอาหารที่เด็กๆ กินได้ให้คล้ายกับอาหารจานโปรดของผู้ใหญ่ เช่น ยำ ส้มตำ ต้มยำ ฯลฯ เพราะบางครั้งการที่ลูกๆ เห็นผู้ใหญ่กินอาหารต่างๆ แล้วอยากกินบ้าง
- ปรุงให้ถูกปาก - การเติมเทคนิคก่อนที่อาหารจะสุกและการปรุงอาหารให้สุก เพื่อกลบกลิ่นหรือเลี่ยงไม่ให้ลูกเผชิญหน้ากับอาหารที่ไม่กินโดยตรง อย่างเนื้อสัตว์ต่างๆ ที่ลูกไม่ชอบกินเพราะรสชาติและกลิ่นของอาหาร คุณแม่ก็อาจต้องปรับจากที่หั่นเป็นชิ้นแล้วนำไปต้ม ทอด ปิ้ง หรือย่าง มาเป็นสับแล้วผสมใส่ไปในอาหารอื่นๆ เช่น ผสมเนื้อหมูใส่กับผักที่มีเนื้อเนียนไม่มีเสี้ยน หมูสับผสมมันบดและฟักทองปรุงรส แล้วปั้นหรือกดด้วยพิมพ์ คลุกแป้งสาลี ไข่และเกร็ดขนมปัง ก่อนจะทอดให้เหลืองกรอบกินคู่กับซอส
เมนูอาหารแนะนำสำหรับเด็กวัย 1-3 ปี
1. ฟักตุ๋นปลา
เครื่องปรุง
-
-
- ฟักอ่อนสับละเอียด 1/4 ถ้วย
- น้ำซุป 1 1/2 ถ้วย
- ปลาน้ำจืดเลือกก้างน้อยๆ
- ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา
วิธีปรุง
-
-
- ต้มเนื้อปลากับน้ำซุปจนสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ยกลง
- ตักใส่ถ้วย ใส่ฟักสับ ลงนึ่งในลังถึงประมาณ 10 นาที หรือฟักสุกนิ่มแล้ว กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยดี
2. ปลาจาระเม็ดผัดเมล็ดมะม่วง
เครื่องปรุง
-
-
- ปลาจาระเม็ด 1 ตัว
- แครอตหั่นชิ้นลวกสุก 1/4 ถ้วย
- ข้าวโพดอ่อนผ่าครึ่งหั่นท่อน 1/4 ถ้วย
- ต้นหอมหั่นท่อน 1/4 ถ้วย
- เห็ดหอมแช่น้ำ 2 ดอก
- พริกชี้ฟ้าแห้งหั่น 2 เมล็ด
- เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 1/4 ถ้วย
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
-
-
- ล้างปลาแล้วแล่เอาแต่เนื้อปลา หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ ลงทอดจนสุกเหลือง
- หั่นเห็ดหอมเป็นชิ้นแล้วนำลงทอด ตักขึ้น ทอดพริกแห้งต่อแล้วตักขึ้น
- ใส่น้ำพริกเผาในกระทะ ใส่น้ำมันเพิ่มอีก 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำปลา ซีอิ๊วขาว เห็ดหอม พริกชี้ฟ้าทอด แครอท ข้าวโพดอ่อน ผัดให้เข้ากัน
- ใส่เมล็ดมะม่วงหิมพานต์และต้นหอม ลงผัดให้เข้ากันแล้วตักใส่จานเป็นอันเสร็จ
3. ปลาแซลมอนทอดซอสบาร์บีคิว
เครื่องปรุง
-
-
- ปลาแซลมอน 170 กรัม
- มันฝรั่งหั่นยาว 100 กรัม
- แครอตหั่นเส้น 100 กรัม
- น้ำมันมะกอก 100 กรัม
- เนย 2 ช้อนโต๊ะ
- มะเขือเทศบด 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
- หอมสับ 1 ช้อนชา
- น้ำส้มแดง 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
-
-
- ตั้งกระทะพอร้อน ใส่น้ำมันมะกอก
- นำปลาแซลมอนมาโรยด้วยเกลือ พริกไทย แล้วนำลงทอดในน้ำมันมะกอก
- ทอดปลาให้มีสีสวย แล้วนำเข้าเตาอบ ซึ่งจะทำให้เนื้อปลานุ่มอร่อยขึ้น อบจนสุกแล้วพักไว้
วิธีทำซอส
-
-
- ตั้งกระทะ ใส่เนย กระเทียมสับ ผัดจนหอมเหลือง
- ใส่หอมสับ มะเขือเทศ ผัดคลุกให้เข้ากัน
- ใส่น้ำส้มแดง เคี่ยวให้หอม เติมน้ำตาลทรายแดงเคี่ยวต่อจนเข้ากันดี แล้วจึงนำมาราดบนปลาที่เตรียมไว้
4. ข้าวหมูซีอิ๊ว
เครื่องปรุง
-
-
- หมูสไลด์ 1 ชิ้น/ 1 ที่
- ซีอิ๊ว แป้งข้าวโพด และน้ำมันหอย
- ข้าวสวย 1 ½ ทัพพี
- แครอทหั่นยาวลวก 2 ช้อนโต๊ะ
- บร็อคโคลีลวก 4-5 ดอก
วิธีทำ
-
-
- สไลด์เนื้อหมูเป็นชิ้นบางๆ ขนาดค่อนข้างใหญ่ ทุบด้วยที่ทุบเนื้อเพื่อให้เครื่องหมัก (ซีอิ๊ว แป้งข้าวโพด และน้ำมันหอย) ซึมเข้าเนื้อได้ดีขึ้นและทำให้สุก
- ตั้งกระทะเติมน้ำมันเล็กน้อย นำหมูลงไปผัดจนสุก ตักวางบนข้าวสวยร้อนๆ เสิร์ฟคู่กับผักที่เตรียมไว้
5. ปั้นก้อนกรอบนุ่ม
เครื่องปรุง
-
-
- มันฝรั่งต้มสุกบดละเอียด 1 ถ้วยตวง
- เนื้อสัตว์ต่างๆ ต้มสุกหั่นละเอียด 1 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- หอมหัวใหญ่สับหยาบ 1 หัว
- แป้งสาลี 1/2-1 ถ้วยตวง
- เนยสดชนิดจืด 2 ก้อนเล็ก (20กรัม)
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- เกล็ดขนมปังหรือขนมปังป่น(สำหรับคลุก)
วิธีทำ
-
-
- ผัดส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นมันฝรั่ง แป้งสาลี ไข่ไก่ และเกล็ดขนมปังให้สุก และปรุงรส
- นวดส่วนผสมที่ผัดสุกแล้วกับมันฝรั่งให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ ขนาดพอคำ
- คลุกปั้นก้อนที่ได้กับแป้งสาลี ไข่ไก่ (ที่ตีทั้งฟองให้เข้ากัน) และตามด้วยคลุกเกล็ดขนมปัง
- ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน เอาปั้นก้อนลงทอดจนสุก ตักขึ้นพักบนกระดาษซับน้ำมัน และเสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศรวมรส
6. รวมพลผลไม้ลอยแก้ว
เครื่องปรุง
-
-
- กล้วยไข่หั่นชิ้นเล็ก
- องุ่นปอกเปลือกและแกะเม็ดผ่าครึ่ง
- ชมพู่หั่นชิ้นเล็ก
- มะละกอสุกหั่นชิ้นเล็ก
- น้ำเชื่อม เกลือ น้ำมะนาว
วิธีทำ
-
-
- นำผลไม้ทุกอย่างใส่ชาม ตักน้ำเชื่อมราดผลไม้พอให้ได้รสหวาน
- เติมเกลือและน้ำมะนาวเล็กน้อย หากยังไม่รับประทานทันทีให้ใส่ชามปิดฝาไว้แล้วนำไปแช่ตู้เย็น
7. ไข่นกกระทาทอดกรอบ
เครื่องปรุง
-
-
- ไข่นกกระทา
- แป้งข้าวโพด
- ข้าวโพด
- ผักโขมสับละเอียด
- ไข่ไก่
- เนื้อไก่สับ
- งาดำ
- น้ำมัน
วิธีทำ
-
-
- นำไข่นกกะทาไปชุบไข่ทอดพอเหลืองพักไว้
- นำไข่ไก่ที่เหลือมีตีรวมกับผักโขม เนื้อไก่สับ ข้าวโพด และใส่แป้งไปพอประมาณ
- นำลงทอดในน้ำมัน ก็ได้ไข่เจียวหอมสีสันน่ากิน