หมอเตือน! ไรโนไวรัส Rhinovirus C กำลังระบาดมาก รุนแรงคล้าย RSV

ไวรัส RSV ที่ระบาดจนเด็กๆ หลายคนป่วย ทำให้พ่อแม่หลายคนอกสั่นขวัญหายยังไม่หมดไป ก็มีอีกหนึ่งไวรัสที่หมอออกมาเตือนกันชื่อว่า ไรโนไวรัส Rhinovirus C เห็นชื่อตอนแรกนึกว่า โนโรไวรัส ที่ทำให้เด็กมีอาการท้องเสีย อาเจียน รุนแรง แต่จริงๆ คนละไวรัส คนละโรคกันเลยนะคะ

มาทำความรู้จัก  ไรโนไวรัส Rhinovirus C ที่คุณหมอออกมาเตือนกันก่อนค่ะว่าที่กำลังระบาดในช่วงนี้ มีอาการและต้องดูแลรักษาได้อย่างไร

เรื่องนี้ ศ.นพ. ยง ภู่วรวรรณ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อมูลเตือนเรื่องไวรัสนี้ในเฟสบุ๊กส่วนตัว (Yong Poovorawan) ว่า Human Rhinovirus C (HRV-C) กำลังระบาดมากในช่วงนี้



ไรโนไวรัส (Rhinovirus) คำว่า Rhino แปลว่าจมูก ไรโนไวรัส เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคกับจมูก คือหวัดธรรมดา ที่พบบ่อยมากในเด็ก จะมีสาเหตุจาก rhinovirus (HRV) ที่เป็นหวัดจะเป็น HRV-A และ HRV-B เพราะไวรัสนี้จะชอบเย็น หรืออุณหภูมิต่ำ จะอยู่ที่จมูก ถ้าเข้าหลอดลม แล้วอุณหภูมิสูงกว่า จะอยู่ไม่ได้ จึงมักไม่มีอาการมาก เป็นแค่หวัดธรรมดา

ต่อมาตั้งแต่ปี 2006 พบไรโนไวรัสตัวใหม่ คือ HRV-C ที่ทนความร้อนได้ดี จึงลงหลอดลมได้ทำให้เกิดอาการได้มากกว่า ตั้งแต่หลอดลมอักเสบ ปอดบวม อาการจึงคล้าย RSV

พบการระบาดช่วงนี้มากขึ้น HRV-C จะระบาดติดกันเป็นกลุ่ม เด็ก และวัยรุ่น ผู้ใหญ่ มีอาการมากน้อยแตกต่างกัน บางรายรุนแรง ถึงภาวะหายใจล้มเหลวได้ ต้องนอน ICU การส่งตรวหาไวรัสปกติที่มีราคาแพง และเราจะได้ผลแค่เป็น Rhinoenterovirus positive ซึ่งต้องแยกจาก enterovirus gr D ด้วย ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก รับตรวจยินดีให้คำปรึกษา

ไรโนไวรัส Rhinovirus เป็นไวรัสที่พบบ่อยมาก ทำให้เกิดโรคหวัด (ธรรมดา) เชื้อที่พบจะเป็น rhinovirus A และ B ในระยะหลังมี rhinovirus C พบมากขึ้นพอ ๆ กับ RSV


อาการ ไรโนไวรัส Rhinovirus C

• มีอาการคล้ายไวรัส RSV
• มีไข้ ไอ อาจจะมีการหลอดลมอักเสบ ปอดบวม ทำให้มีอาการมาก หายใจแรงและหอบได้

การตรวจและรักษาไรโนไวรัส Rhinovirus C

การส่งตรวจหาไวรัสปกติมีราคาแพง และเราจะได้ผลแค่เป็น Rhinoenterovirus positive ซึ่งต้องแยกจาก enterovirus gr D ด้วย ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก

เด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี การตรวจ rhinovirus C ยังไม่แพร่หลาย อย่างไรก็ตาม อาการไม่แตกต่างกับ RSV เลย การตรวจไม่ว่า จะเป็น RSV หรือ rhinovirus C แนวทางการรักษาไม่แตกต่างกันเป็นการรักษาตามอาการเป็นส่วนใหญ่


ที่มา Yong Poovorawan