งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ สหรัฐอเมริกาบอกว่า เด็กที่ไม่ค่อยได้เล่นของเล่นหรือไม่ได้รับสัมผัสจากพ่อแม่ จะมีขนาดของสมองเล็กกว่าเด็กทารกโดยทั่วไปถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์ และยิ่งถ้าลูกได้เล่นอยู่สภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์และการกระตุ้นที่เหมาะสม จะช่วยให้สมองของเขาได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์
เล่นนอกบ้านดีอย่างไร
เด็กเล็กๆ แม้จะยังเดินไม่ได้ แต่พ่อแม่สามารถอุ้มลูกออกไปนอกบ้าน หรือจะให้ลูกนั่งรถเข็นแล้วพาออกไปนอกบ้านก็ได้เช่นกัน เพื่อให้เขาได้รับสัมผัสที่แตกต่างจากในบ้านบ้าง
1. เล่นนอกบ้าน ส่งเสริมการมองเห็น จากแต่เดิมที่เคยเห็นแต่ของเล่น เห็นเพดาน เห็นแต่ผนัง มีแต่คนในบ้าน การพาลูกออกไปเล่นนอกบ้านทำให้เขาเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น เช่น ท้องฟ้า ก้อนเมฆ ต้นไม้ สัตว์ สิ่งของอื่นๆ ที่แตกต่างจากเดิม
2. เล่นนอกบ้าน ส่งเสริมการได้ยินเสียง เมื่อออกไปนอกบ้านลูกย่อมจะได้ยินเสียงที่แตกต่างจากในบ้าน โดยเฉพาะเสียงของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงนก เสียงลมพัด เป็นต้น
3. เล่นนอกบ้าน ช่วยให้รับสัมผัสนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นหญ้า พื้นดิน พื้นทราย จะช่วยประตุ้นประสาทสัมผัสเด็กวัย 1-3 ปีได้ดีทีเดียว
4. เล่นนอกบ้าน ส่งเสริมสังคมใหม่ๆ แต่เดิมรู้จักแต่คนในบ้าน เมื่อไปนอกบ้านลูกย่อมได้พบเจอคนที่แปลกใหม่มากขึ้น นอกจากจะช่วยเสริมสร้างทักษะเรื่องการเข้าสังคมแล้ว ยังลดอาการกลัวคนแปลกหน้าได้อีกด้วย
เล่นนอกบ้านต้องปลอดภัย
การเล่นนอกบ้านช่วยให้อิสระแก่ลูกได้ดีกว่าการเล่นในบ้าน ลูกสามารถสร้างจินตนาการและออกแบบการเล่นในแบบของเขาได้ การได้หัดปีนป่าย หรือได้จับสัมผัสสิ่งแปลกใหม่จะช่วยให้ลูกเกิดการเรียนรู้
หากต้องพาลูกไปสนามเด็กเล่น คุณภาพของของเล่นหรือลักษณะการเล่นของเล่นจากเด็กหลายๆ คน อาจทำให้ของเล่นในสนามเด็กเล่นไม่ค่อยมีความปลอดภัยมากนัก เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยให้ลูกค่ะ และก่อนจะให้ลูกเล่นของเล่นชนิดไหนก็ควรดูความเหมาะสมเรื่องวัยและพัฒนาการของเขาด้วย เช่น การพาลูกนั่งชิงช้า ถ้าลูกยังเล็กนักก็ไม่ควรปล่อยให้นั่งคนเดียว หรือหากเขาสามารถนั่งคนเดียวได้ ก็ไม่ควรแกว่งไกวชิงช้าแรงๆ เพราะอาจจะทำให้ลูกตกจากชิงช้าได้