ตัวอย่างที่ดี..แม่พิมพ์สำคัญหล่อหลอมชีวิตลูก
หนูก็ทำได้
หนูจิ๋วในวัยนี้เริ่มมีการก่อร่างความรู้สึก ความต้องการ "สถานะที่เท่าเทียมกัน" อะไรที่เห็นผู้ใหญ่อย่างเราๆ ทำได้ หนูๆ ก็อยากจะทำได้บ้าง บ่อยครั้งเราจึงจะเห็นหนูๆ พูดจาทำท่าคุยโทรศัพท์ ขับรถ ทำความสะอาดบ้าน การเปิด-ปิดสวิตช์ไฟหรือทีวีเองเป็นเรื่องสนุกของหนูๆเพราะทำให้พวกเขา รู้สึกว่าสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ด้วยตัวของตัวเอง
หนูได้รู้เพราะหนูเลียนแบบ
+ เมื่อเจ้าหนูเริ่มกระบวนการเลียนแบบ ให้คุณพ่อคุณแม่นึกดีใจไว้ได้เลยครับว่าลูกเราพร้อมแล้วสำหรับกระบวนการ เรียนรู้ไปอีกขั้นหนึ่ง เจ้าหนูจะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะและศักยภาพของตัวเขาเอง ผ่านการเลียนแบบในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ของผู้ใหญ่ อย่างการแปรงฟัน แต่งตัว ปิดไฟ เป็นต้น
+ หนูๆ วัยนี้ช่างจดช่างจำ เลียนแบบคำพูดของผู้ใหญ่ รู้ไหมครับว่ามีผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งบอกว่า เด็กในวัยเริ่ม 2 ขวบนี่ สามารถจดจำคำศัพท์ใหม่ๆ ได้มากกว่าวันละ 4 คำ นอกจากนี้ยังจดจำท่าทางและน้ำเสียงการพูดของผู้ใหญ่ได้หมด ใครพูดอะไรก็พูดดีๆ แล้วกันครับ ไม่อย่างนั้นหนูๆ จำอะไรไม่ดีไปทำแล้วจะยุ่ง ไม่ใช่ความผิดของเขาเลยนะครับ
+ บทบาททางสังคม บางวันหนูอาจจะอยากเล่นเป็นพ่อ-แม่ หมอกับคนไข้ ตำรวจจราจร คุณครู กระเป๋ารถเมลล์ ฯลฯ ซึ่งการจะเล่นบทบาทสมมุติแบบนี้ได้นั้นหนูๆ ต้องผ่านการสังเกตพฤติกรรมของคนตัวโตมาพอสมควร ดังนั้นหนูจะได้เรียนรู้ถึงเรื่องบทบาททางสังคมด้วย ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจทั้งหมดแต่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะแนะนำเขาต่อไปได้ ครับ
เลียนแบบ แบบนี้ดี
อย่างที่กล่าวในตอนต้นแล้วว่าการเลียนแบบของวัยจิ๋วสามารถช่วยให้เขามี พัฒนาการได้อย่างหลากหลาย เราลองมาดูกันดีกว่าว่าคุณพ่อคุณแม่จะฉวยโอกาสช่างจดจำ ช่างเลียนแบบของหนูๆ มาช่วยให้เขาพัฒนาไปได้อย่างไรบ้าง
+ "งานบ้าน" หนูๆ มักจะรบเร้าขอคุณพ่อคุณแม่ทำบ้าง แต่เขาไม่ได้คิดว่างานบ้านเป็นงานเหมือนอย่างที่ผู้ใหญ่คิดหรอกนะครับ ควรจะเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำ อย่ามองว่าเป็นเรื่องน่ารำคาญ ให้มองว่าเป็นโอกาสที่จะสอนเจ้าตัวน้อยในเรื่องต่างๆ เช่น ถ้าให้หนูช่วยจัดโต๊ะ หนูก็จะได้ทำความรู้จักกับอุปกรณ์ในการจัดโต๊ะไปพร้อมๆ กัน
+ เล่นกับลูก หนูๆ ในวัยนี้รู้จักสมมุติและเลียนแบบอย่างง่ายๆ แล้ว แต่การเล่นอยู่เพียงคนเดียวหรือกับตุ๊กตาเพียงอย่างเดียวหนูก็ชักจะไม่สนุก เสียแล้ว หนูอยากจะได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ (เล่น) สมมุติครับ แต่เพราะธรรมชาติของหนูๆ วัยนี้ยังไม่ค่อยคุ้นกับเพื่อนๆ แปลกหน้า ตรงนี้คุณพ่อคุณแม่อาจ(สมมติ)ตัวเองเป็นเพื่อนเล่นกับเขาแทน
เลียนแบบ..แบบนี้ต้องระวัง
+ อันตรายจากการเลียนแบบอาจจะเกิดขึ้นกับเจ้าตัวน้อยได้อย่างรู้เท่าไม่ถึง การณ์ อย่างเวลาหนูวัยจิ๋วเห็นคุณแม่หั่นผักอยู่ก็เกิดอยากทำขึ้นมาบ้าง ก็ต้องระวังของมีคมกันหน่อยล่ะครับ แต่การห้ามไม่ให้หนูได้ทำอะไรก็ดูจะน่าเสียดายและเป็นการทำร้ายความรู้สึก ของหนูไปนิด ลองหาอุปกรณ์อื่นที่ไม่เป็นอันตรายสำหรับเขามาให้ได้เล่นทดแทนสิครับ
+ แม้ว่าการเลียนแบบจะมีแต่ประโยช์ในแง่บวกมากมายแต่ขณะเดียวกันก็เป็นโทษได้ เพราะหนูๆ ก็เหมือนผ้าขาว คือถึงจะรู้จักและสามารถเลียนแบบได้ แต่หนูยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่จะแยกแยะว่าอะไรควรไม่ควร ดังนั้นเราจึงต้องระวังว่าหนูจะไปเลียนแบบอะไรที่ไม่พึงประสงค์เอาได้
+ หนูพูดจาไม่ละเอียด (หยาบจังเลย) ทำให้หนูไม่น่ารัก ก็ต้องดูก่อนว่าหนูไปติดเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหน ถ้าอยากให้หนูพูดจาไพเราะ คุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับหนูๆ แต่ถ้าหากติดมาจากคนอื่น เช่น พี่เลี้ยง ทีวี หรือคนข้างบ้าน เราก็ต้องมาคิดดูว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป
อันตรายจากจอตู้!!
โทรทัศน์ดูจะเป็นเครื่องมือที่สร้างความสนุกสนานและความเพลิดเพลินให้กับ เด็กๆ เป็นอย่างดี แถมยังมีอิทธิพลต่อหนูๆ มาก ถ้าเป็นอย่างนี้ยิ่งต้องพิถีพิถันในการปล่อยให้ลูกใช้เวลากับโทรทัศน์รวมถึง การเลือกรายการที่เหมาะสมกับลูก
+ ฮีโร่ของหนู "ซีเมนต์ทางบุคลิกภาพ" หนูๆ ทั้งหลายล้วนมีตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบ เช่นอยากมีกระเป๋าวิเศษอย่างโดเรมอน เด็กผู้ชายอยากเก่งเหมือนขบวนการเรนเจอร์ เด็กผู้หญิงอยากเก่งอย่างเซลล์เลอร์มูนหรือพาวเวอร์พัฟเกิร์ล พฤติกรรมของฮีโร่เหล่านี้อาจจะส่งผลถึง เรื่องค่านิยม จิตใจ ลักษณะนิสัย และจินตนาการของเด็กๆ ได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรพิจารณาดูให้ดีครับ ว่าการ์ตูนที่ว่าเหมาะกับหนูๆ หรือเปล่า การ์ตูนที่เต็มไปด้วยความรุนแรงก็อาจจะเลี่ยงไม่ให้หนูๆ ดูมากครับ
+ หนูไม่ได้ดูรายการเด็กอย่างเดียว เนื่องจากประเทศไทยยังมีรายการทีวีสำหรับเด็กอยู่อย่างจำกัด จึงหลีกเลี่ยงยากที่จะไม่ให้หนูชมรายการอื่นของผู้ใหญ่อย่างละครหรือเกมโชว์ ซึ่งเจ้าหนูในวัยนี้ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอในการพิจารณาว่าอะไรเหมาะสมหรือ ไม่เหมาะสม จึงอาจจดจำมาทำได้ง่ายๆ เรื่องนี้สำคัญมากพอที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะเสียสละเวลานั่งดูอยู่ด้วยเพื่อแนะ นำ ได้แลกเปลี่ยนและได้สั่งสอนอบรมหรือสอดแทรกแง่มุมที่เป็นแนวคิดต่างๆได้
ที่ดีที่สุดของหนูๆ คือคนใกล้ชิดอย่างคุณพ่อคุณแม่ ถ้าอยากให้เขาเป็นอย่างไรเราก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขา