เป็นสิ่งที่ทุกคนในบ้านต้องรู้ไว้นะคะ ว่าการหลอกให้เด็ก ๆ กลัว เช่น เดี๋ยวให้ตำรวจจับเลย เดี๋ยวผีมาหลอกนะ เดี๋ยวพาไปหาหมอ ให้หมอฉีดยาเลย ทุก ๆ อย่างที่แกล้งพูดขู่เด็กไป เป็นสิ่งที่จะฝังลงไปในความรู้สึกของเขา เขาจะรู้สึกกลัวอย่างไร้เหตุผล และกลัวในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องกลัว
อุปสรรคต่อความเข้มแข็งของเด็กคือความกลัว (FEAR) ซึ่งก่อให้เกิดความไม่มั่นคงในจิตใจ ว้าวุ่น หวาดกลัว ไม่มั่นใจในตัวเอง และพาลเป็นผลเสียต่อสุขภาพ จึงต้องพยายามเลี้ยงลูกอย่าให้เป็นคนขี้กลัว กลัวอะไรโดยไม่มีเหตุผล
ผลกระทบ หากหลอกให้ลูกกลัว
- ส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านอารมณ์และจิตใจอย่างมาก
- ความกลัวจะฝังแน่นในความรู้สึก ส่งผลมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า
- ทำให้เสียบุคลิกภาพ เป็นคนขี้ระแวงจนเกินเหตุ
และยิ่งไปกว่านั้น หากลูกมีความกลัวอย่างรุนแรง และต้องอยู่ในภาวะนี้นาน ๆ อาจทำให้เกิดอาการทางประสาทได้ เช่น เด็กที่กลัวความมืด หากให้อยู่ในห้องมืดคนเดียว จะเกิดความเครียด นอนไม่หลับในเวลากลางคืน หัวใจจะเต้นเร็ว ในสมองจะจินตนาการ ไปต่าง ๆ นานา และหวีดร้องได้เมื่อใบไม้ใบหนึ่งปลิวมาปะทะหน้าต่าง
อย่างไรก็ตาม ความกลัวจะส่งผลดี หากกลัวอย่างมีเหตุผล กลัวในสิ่งที่ควรกลัว เช่น หากกลัวอุบัติเหตุ เราจะทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความไม่ประมาท เป็นต้น ความกลัวอย่างมีเหตุผล จะช่วยให้เราแสดงพฤติกรรมที่ดีและเหมาะสมออกมา
ไม่ให้เด็กหลอก แล้วต้องทำอย่างไร
ที่เคยหลอกลูกให้กลัวไปแล้ว ก็ยังไม่สายเกินไป เพราะมีวิธีช่วยให้เราเลี่ยงการหลอกลูกอย่างไร้เหตุผลมาเป็นใช้เหตุผลมากขึ้น
- ตั้งสติก่อนขู่เด็ก ทุกครั้งก่อนที่จะพลั่งปากหลอกลูก ตั้งสติสักนิด ว่าต้องการให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผล หรือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่กลัวไปหมดทุกเรื่อง
- แก้ไขความเข้าใจผิด หากผู้ใหญ่ในบ้านหลอกลูกให้กลัว คุณพ่อคุณแม่จำเป็นมากที่ต้องอธิบายให้ท่านฟังว่า เพราะเหตุใดจึงไม่ควรหลอกหลาน ที่สำคัญคือ ต้องแก้ไขความเข้าใจผิดให้แก่ลูกด้วย เช่น ที่คุณยายบอกว่า ไม่ให้หนูเล่นซ่อนแอบตอนกลางคืน เพราะอาจถูกผีจับตัวไป ที่จริงแล้ว ไม่มีผีที่ไหนมาจับตัวลูกไปได้ แต่คุณยายพูดไปอย่างนั้น เป็นเพราะห่วง กลัวว่าลูกจะไปเล่นไกลหูไกลตาและหลงหายไปมากกว่า เป็นต้น
- พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่กลัวอย่างไร้เหตุผล เด็กวัยนี้เป็นวัยแห่งการเรียนรู้และเลียนแบบพฤติกรรมจากคนใกล้ชิด โดยเฉพาะพ่อแม่ การเป็นแบบอย่างที่ดี ใช้เหตุผลในการดำเนินชีวิต จะช่วยให้ลูกซึมซับรับรู้เรื่องเหตุและผลมากขึ้น และไม่กลัวอะไร ๆ อย่างไร้เหตุผลได้ โดยการให้เหตุผลแก่ลูกว่า เหตุใดเราจึงควรกลัว หรือไม่ควรกลัวสิ่งต่าง ๆ เช่น ทำไมเราถึงสมควรกลัวงูมากกว่าผี นั่นเป็นเพราะเรารู้ว่างูสามารถกัดทำร้ายเราจนถึงแก่ชีวิตได้ ส่วนผีนั้นเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่ และถึงแม้ว่าพิสูจน์ได้ว่ามีจริง ก็ไม่มีเหตุอันใดที่จะทำให้เขามาทำร้ายเรา เป็นต้น
- อธิบายให้ลูกเข้าใจด้วยเหตุและผล อธิบายในสิ่งที่เราไม่อยากให้ลูกทำอย่างใจเย็น ด้วยเหตุและผล เช่น แทนที่จะบอกลูกว่า รีบนอนได้แล้วเดี๋ยวผีมาหลอก ให้เปลี่ยนเป็น หนูควรรีบนอนได้แล้ว เพราะพรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปโรงเรียนให้ทันเวลา ถ้านอนดึก ลูกจะนอนไม่พอ พอเช้าก็ไม่อยากตื่น อารมณ์ไม่แจ่มใส ที่สำคัญจะทำให้ลูกไปโรงเรียนไม่ทันเวลา เป็นต้น
นอกจากเราจะต้องปลูกฝังนิสัยให้ลูกค่อย ๆ เลิกกลัวในสิ่งที่ไร้เหตุผลแล้ว คุณพ่อคุณแม่และทุกคนในบ้านก็ควรจะลาขาดจากพฤติกรรมหลอกลูกให้กลัวไปเลยได้ยิ่งดี