การที่ลูกจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ พึ่งพาตัวเองเป็น ก็ต้องอาศัยการเลี้ยงดูเชิงบวกมาตั้งแต่เล็ก ๆ ที่มีพ่อแม่เป็นแบบอย่าง คอยสอน อบรม ให้ความรัก เพื่อลูกเป็นคนน่ารัก รู้จักวางตัว ยิ่งทุกวันนี้สังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีเทคโนโลยีที่มาแรงและมาเร็ว ทำให้ต้องปรับตัวอย่างมาก และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ลูกไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ พึ่งพาตัวเองไม่ได้ ต้องคอยพึ่งพาพ่อแม่ เพื่อน ไปจนเติบโตนั่นเอง แบบนี้มาสอนให้ลูกอยู่เป็นกับทั้ง 6 อย่าง ที่จำเป็นในการใช้ชีวิตกันเลยค่ะ
เมื่อเริ่มเห็นแววว่าลูกชอบทำอะไร พ่อแม่ต้องคอยส่งเสริมไปให้สุด เพื่อเป็นการสอนให้ลูกรู้จักตัวเอง ซึ่งจะนำไปสู่การมีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต รู้ว่าตัวเองมีความถนัด ความชอบ และความสามารถในด้านใด เช่น ลูกชอบวาดรูป ก็ส่งเสริมให้เรียนศิลปะเพิ่มเติม ลูกชอบดนตรี ก็ซื้อเครื่องดนตรีให้และส่งเรียนเพิ่มเติมในสิ่งที่ลูกสนใจ เพราะการที่ลูกจะรู้จักตัวเอง ลูกต้องเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ ลองผิดลองถูก เพื่อนำไปสู่การรู้จักตัวเอง เป็นรากฐานสำคัญในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับตัวเอง
พ่อแม่ต้องเข้าสังคมเพื่อฝึกลูกให้อยู่ร่วมกันกับผู้อื่น เช่น ไปเจอญาติผู้ใหญ่ ไปบ้านเพื่อพ่อแม่ หรือ พาลูกไปทำกิจกรรมที่ได้เจอผู้คน เช่น ค่ายสิ่งแวดล้อม ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็ก แต่ในเด็กบางคนอาจไม่ชอบเข้าสังคม แต่ก็ต้องพาไป เพื่อให้รู้จักการวางตัวกับผู้ใหญ่ เพื่อน หรือคนที่อายุน้อยกว่า เป็นต้น อย่างน้อยลูกก็รู้จักการปรับตัว รู้จักวางตัว กำหนดใจให้เหมาะสมในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ให้เกียรติผู้อื่น มีมารยาท อ่อนน้อมถ่อมตนเมื่อเจอผู้ใหญ่
พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกเรื่องธรรมชาติและมนุษย์ ให้คำแนะนำว่าลูกควรจะอยู่อย่างไรกับธรรมชาติ ยกตัวอย่าง พาไปผจญภัยป่าเขา น้ำตก ทะเล สอนลูกเรื่องการทิ้งขยะให้เป็นที่ การไม่ทำลายธรรมชาติ การทำเพื่อส่วนรวมเรื่องลดสภาวะโลกร้อน รวมถึงการใช้พลังงานธรรมชาติทุกชนิดอย่างรู้คุณค่าและประหยัด เพื่อให้ลูกมีจิตใจอ่อนโยน ทำเพื่อส่วนรวม และไม่เห็นแก่ตัวเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ควรเริ่มปลูกฝังตั้งแต่วัยเด็กเล็กกันได้เลย
เคยไหม เด็กไม่มีหมอนใบนี้นอนไม่ได้ ไม่มีจานใบนี้ไม่กินข้าว ไม่ไปทัศนศึกษาถ้าไม่มีพ่อแม่ เป็นต้น กรณีแบบนี้เพราะลูกไม่ถูกฝึกให้ยืดหยุ่น ไม่สามารถอยู่ที่ไหนได้ถ้าไม่เป็นไปตามที่ใจอยากได้ ในยุคนี้มีความจำเป็นมาก ที่จะฝึกให้ลูกอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ก็ได้โดยไม่มีพ่อแม่ ไม่มีวัตถุยึดติด ควรฝึกทักษะให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง ให้ลูกรู้จักความลำบาก ให้ช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด มั่นใจในตัวเอง ฝึกให้มีทักษะเรื่องการอยู่รอด ซึ่งเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญที่จะทำให้เขาเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพด้วย เช่น ฝึกให้กินข้าวเอง ให้เลือกเสื้อผ้าเอง ให้นอนเอง ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่ เป็นต้น
โลกยุคดิจิทัลเต็มไปด้วยเทคโนโลยี เด็กที่เกิดมาในยุคนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเด็ก Digital Native (พลเมืองยุคดิจิทัล) การฝึกให้ลูกรู้เท่าสื่อ ใช้สื่อดิจิทัลให้เป็น ไม่ใช่เป็นทาสของเทคโนโลยี เพราะเด็กยุคนี้จะพึ่งพาเทคโนโลยีแทบจะตลอดเวลา และมีแต่ความสะดวกสบายล้อมรอบตัว จึงเป็นเรื่องที่พ่อแม่ควรชี้ให้ลูกเห็นถึงข้อดีข้อเสีย และมีกติกาเรื่องเทคโนโลยีที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยของลูก เช่น เล่นเกมได้แต่พ่อแม่ต้องได้เล่นด้วย จำกัดเล่นวันละ 3 ชั่วโมง และพูดคุยกันหลังเล่นมือถือว่าวันนี้ใช้กูเกิ้ลทำอะไรบ้าง เป็นต้น
ฝึกให้ลูกรักและเคารพในตัวเอง ด้วยการสอนให้ลูกรู้จักตัวเอง มีความถนัดอะไร ลูกสามารถทำอะไรได้บ้าง ที่เก่งและทำได้ดี เพื่อให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเอง เช่น พาลูกไปประกวดการวาดภาพ หลังจากเรียนและฝึกมานาน พาลูกไปแสดงดนตรีหลังจากฝึกมานาน หรือพาไปทำจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่นตามที่วัยของลูกทำได้ เมื่อลูกรู้ว่าตัวเองเก่งอะไร ทำอะไรได้บ้าง ลูกมีความสุขกับชีวิตของตัวเองให้ได้ ไม่ต้องรอให้ใครมาเติมเต็ม และลูกจะอยู่แบบเห็นคุณค่าของตัวเอง และเห็นคุณค่าของผู้อื่นด้วย
6 ข้อนี้ ทำไม่อยากเลยใช่ไหมคะ เพียงเอาใจใส่ ให้ความรัก และคอยอบรมสั่งสอนลูก เพียงเท่านี้ก็ช่วยส่งเสริมลูกให้รู้จักตัวเอง และอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุขด้วยตัวเองแล้ว