เด็กเล็ก ช่วงเข้าโรงเรียนจนถึงชั้นประถมปลายเป็นกลุ่มที่ต้องระมัดระวังเรื่องเชื้อโรคมากที่สุด ยิ่งหน้าฝนแล้ว เด็กๆ มักไม่สบายกันเยอะ ทั้งการกิน การหยิบจับสิ่งของ การเล่นกับเพื่อน ไม่ว่าจะสัมผัสอะไรก็เสี่ยงติดเชื้อทั้งนั้น
องค์การยูนิเซฟ พบว่าแต่ละปี มีเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี เสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วง ประมาณ 3.5 ล้านคน ในประเทศไทยเรานั้น เด็กนักเรียนเป็นกลุ่มที่ต้องให้ความสำคัญกับการล้างมือมากที่สุด เพื่อให้มีสุขอนามัยที่ดีติดเป็นนิสัย เพราะเด็กในปฐมวัย ช่วงอายุ 5 – 12 ปี มีความเสี่ยงที่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจากการสัมผัสสิ่งสกปรกมากที่สุด
6 เวลาที่ควรล้างมือ
ก่อนทำอาหาร และกินอาหาร
หลังเข้าห้องน้ำ
หลังหยิบจับสิ่งปกปรก
ก่อนและหลังเยี่ยมผู้ป่วย
หลังสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง
หลังกลับจากนอกบ้าน
ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะช่วยลดพาหะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายและป้องกันโรคต่างๆ อาทิ โรคติดต่อทางเดินอาหาร เช่น อุจจาระร่วง โรคตับอักเสบชนิดเอ โรคบิด อหิวาตกโรค เป็นต้น
อาการโรคอุจจาระร่วง
มีไข้
ปวดท้อง และอุจจาระร่วง
คลื่นไส้ อาเจียน
อุจจาระอาจพบเยื่อมูกและมีเลือดปน
อาการหนาวสั่น
เบื่ออาหาร
น้ำหนักตัวลด
เลือดจาง
ตับและม้ามโต
อาจมีอาการทางสมอง
เด็กอาจมีอาการชักและซึม
หากเกิดจากอหิวาตกโรคจะถ่ายเป็นน้ำซาวข้าว หากเป็นรุนแรงอาจมีภาวะขาดน้ำร่วมด้วย
การล้างมือที่ถูกวิธีด้วยน้ำและสบู่
ฝ่ามือถูกัน
ฝ่ามือถูหลังมือและนิ้วถูซอกนิ้ว
ฝ่ามือถูฝ่ามือและนิ้วถูซอกนิ้ว
หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ
ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ
ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ และ
ถูรอบข้อมือ โดยทุกขั้นตอนทำ 5 ครั้ง สลับกันทั้ง 2 ข้าง
เมื่อเด็กรู้จักล้างมืออย่างสม่ำเสมอเเล้วก็เป็นการลดความเสี่ยงไปได้เยอะเลยค่ะ เเต่ต้องสอนให้รู้จักล้างอย่างถูกวิธีเเละล้างด้วยสบู่ด้วยทุกครั้งก่อนจะทานขนม ทานข้าว เเละหลังเข้าห้องน้ำ เพื่อที่เด็กๆ จะได้มีสุขภาวะที่ดี ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ต้องหมั่นล้างมือให้สะอาดสม่ำเสมอ นอกจากจะปลอดเชื้อโรคแล้วยังสบายมืออีกด้วย ถ้าหากไม่สะดวกล้างมือและล้างด้วยสบู่ก็สามารถใช้เจลล้างมือได้นะคะ