ลูกวัยอนุบาลเรียนรู้ผ่านโลกแห่งเทคโนโลยี

ยุคที่เทคโนโลยีการสื่อสารและความบันเทิงเฟื่องฟูอย่างนี้ อย่าปฏิเสธเลยค่ะว่าเจ้าหนูวัยอนุบาลที่บ้านจะไม่รู้จัก ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ไอแพด ไอโฟน ฯลฯ ข้อดีคืออะไร แล้วใช้อย่างไรลูกจึงเกิดการเรียนรู้

เทคโนโลยีอาจดูเหมือนเป็นโลกสำหรับผู้ใหญ่ แต่หากหนูอนุบาลได้สัมผัสโดยไม่มีคุณคอยให้คำแนะนำก็อาจส่งผลเสียต่อลูกได้นะคะ เพราะพัฒนาการด้านการคิด การใช้เหตุผล รวมไปถึงการยับยั้งชั่งใจของวัยนี้ยังไม่สามารถทำได้เหมือนกับพี่ประถม การให้คำแนะนำและส่งเสริมให้เด็กๆ มีวินัยในการใช้จึงเป็นเรื่องจำเป็นค่ะ ซึ่งวัย 3-6 ปีนั้นเวลาที่เหมาะสมคือ ½ ชั่วโมง/วัน เพื่อป้องกันปัญหาสายตา และชวนเด็กๆ ออกมาเล่นอิสระเพื่อสัมผัสกับโลกภายนอกควบคู่กันไปด้วย ก็จะทำให้การเรียนรู้ของเด็กๆ เกิดขึ้นได้ทั้งในโลกไอทีและโลกแห่งความจริงค่ะ

โลกไอที… มีดี

คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือ CAI (Computer Assisted Instruction) วัยอนุบาลควรเลือกสรรเทคโนโลยีที่ช่วยกระตุ้นสมองทั้งสองซีก ดังนั้นโปรแกรมที่ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กจึงควรมีลักษณะของนิทานหรือเรื่องเล่าเพื่อพัฒนาสมองเด็กและความคิดสร้างสรรค์ CAI จึงเป็นคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่มีสีสันสดใส มีเสียงดนตรี เสียงบรรยาย นิ่งและภาพเคลื่อนไหว มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ใช้กับบทเรียนที่ดึงดูดใจเด็กวัย 3-6 ปี

เรียนรู้ผ่าน Tablet & Smart Phone

ทั้งแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน เด็กๆ ก็สามารถเรียนรู้เรื่องสนุกผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ได้จากแอพพลิเคชั่นต่างๆ โดยแอพพลิเคชั่นในปัจจุบันมากมายก็ตอบสนองต่อความอยากรู้ทั้งกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กๆ ค่ะ เช่น เรื่องของดาราศาสตร์กับแอพพลิเคชั่น Star Walk, บวกลบคูณหารด้วย Math Magic หรือเล่นเปียโนบน iPad กับ Virtuoso Piano

เรียนรู้ได้ต้องใช้ให้เป็น

• เทคโนโลยีจะเป็นเรื่องดีได้ หัวใจสำคัญไม่ใช่แค่ใช้เป็นอย่างเดียว แต่ต้องรู้จักใช้ด้วยค่ะ
• ต้นแบบดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ลูกจะรู้จักใช้ ไม่ใช่เพียงแค่ใช้เป็น ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ต้นแบบอย่างคุณค่ะ ดังนั้นนอกจากแนะนำลูกแล้ว คุณก็ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจกับการใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นด้วยนะคะ
• ไม่หยุดอัพเดทเรื่องไอที คุณควรติดตามข่าวสารเทคโนโลยีด้านไอทีอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้รู้เท่าทันเทคโนโลยี และซอฟต์แวร์ต่างๆ ว่าแบบไหนดีและไม่ดีต่อวัยของลูก
• ร่างกติการ่วมกัน ชวนเด็กๆ มาร่วมวางแผนและร่างกติกาเวลาใช้ลงบนกระดาษให้ชัดเจน แล้วปฏิบัติตามอย่างจริงจัง หากลูกไม่ทำตามกติกา แนะนำว่าลองพูดกับลูกเชิงบวก เช่น “พ่อจะดีใจมากหากลูกไปเดินเล่นกับพ่อ” แทนที่จะดุลูกก็ถือเป็นวิธีช่วยปรับพฤติกรรมแบบละมุนละม่อมที่ใช้ได้ผลดีกับวัยอนุบาลนะคะ

เห็นไหมคะว่าเทคโนโลยีไม่ดีมีแค่เพียงด้านลบ หากคุณพ่อคุณแม่เลือกสรรให้เหมาะกับวัยลูก และคอยเล่นคอยรู้ไปพร้อมกับพวกเขา เทคโนโลยีก็มีเรื่องดีๆ ที่ช่วยให้ลูกเท่าทัน มีวินัย แล้วยังได้เรื่องเรียนรู้ด้วยนะคะ

เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ ดร.นพ.ยุทธนา ภาระนันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการบริหารองค์กรและที่ปรึกษาเวชศาสตร์ครอบครัว และอ.นลิน ตุติยาพึงประเสริฐ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนานวัตกรรม โรงเรียนดรุณสิกขาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี