ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตในครอบครัวด้วยความมั่นใจว่าบ้านคือที่ที่ปลอดภัย เป็นบ้านแสนสุขของทุกคน แต่ทราบไหมคะว่าภายใต้บ้านที่อบอุ่นของเรา อาจจะมีภัยเงียบที่แฝงตัวอยู่ตามส่วนต่างๆ ในบ้าน นั่นคือ “สารพัดเชื้อโรค” ที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เรามาลองดูกันว่าในบ้านเรามีจุดไหน เป็นจุดเสี่ยงและเราทำความสะอาดได้ดีพอแล้วหรือยัง
1. ลูกบิดประตู เป็นจุดที่เราต้องสัมผัสวันละหลายๆ ครั้งเมื่อมือไปสัมผัสกับเชื้อโรค สิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นก็กลับมาบิดประตู และเมื่อไม่ได้ทำความสะอาดนานวันเข้าก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่น่ากลัว
-
- ดูแลทำความสะอาดอย่างไร : เวลาทำความสะอาดบ้านครั้งต่อไป อย่าลืมจุดสำคัญอย่างลูกบิดประตูด้วยนะคะ ใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว รวมทั้งบานประตูและมือจับหน้าต่างด้วย
2. โทรศัพท์มือถือ เพราะเราใช้กด ใช้จิ้ม ใช้สไลด์ตลอดทั้งวัน โทรศัพท์มือถือจึงได้รับการสะสมเชื้อโรคเยอะแยะมากมาย บ่อยครั้งที่เราเอามาใช้แนบหน้า แนบหู เพราะฉะนั้นมือถือสมควรได้รับการดูแลความสะอาดมากที่สุด
-
- ดูแลทำความสะอาดอย่างไร : อย่าหยดหรือฉีดน้ำยาทำความสะอาดโดยตรงกับมือถือ ควรใช้ผ้านุ่มๆ ชุบน้ำยาทำความสะอาด แล้วเช็ดทำความสะอาดที่มือถืออีกที
3. ของเล่นลูกๆ ของเล่นลูกๆ บางครั้งลูกเอาไปหยิบอม ปาลงพื้น ปะปนกับของอื่นๆ ที่ไม่สะอาด ของเล่นลูกๆ ควรได้รับการดูแลทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกน้อย
-
- ดูแลทำความสะอาดอย่างไร : ถ้าของเล่นมีจำนวนมาก อาจล้างทำความสะอาดทีเดียวด้วยการผสมน้ำยาทำความสะอาดกับน้ำเปล่า แล้วแช่ของเล่นไว้ 10 นาที ก่อนนำขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดให้แห้ง
4. อ่างล้างจาน เราใช้อ่างล้างจานเป็นพื้นที่ทำความสะอาด ถ้วย จาน ชาม จนสะอาด ทำให้สิ่งสกปรกต่างๆ กลับไปรวมอยู่ในอ่างล้านจานแทน เศษอาหารเล็กๆ น้อยๆ ในอ่างล้างจาน หากปล่อยไว้เนิ่นนานจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้
-
- ดูแลทำความสะอาดอย่างไร : ขัดถูอ่างล้างจานให้สะอาดหลังใช้งานทุกครั้ง เพื่อไม่ให้คราบสะสม เก็บเศษขยะ เศษอาหารไม่ให้ตกค้าง นอกจากทำความสะอาดปกติแล้ว ควรผสมน้ำและน้ำยาฆ่าเชื้อโรคลงไปแช่อ่างล้างจานทิ้งไว้เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียต่างๆ เป็นประจำด้วย
5. รีโมททีวี ครอบครัวไหน กินไปดูทีวีไป กดรีโมทไปต้องระวัง เพราะรีโมทเป็นแหล่งรวมสะสมเชื้อโรคที่สำคัญ ยิ่งเราสัมผัสรีโมทแล้วหยิบของกินเข้าปากด้วย ก็อาจทำให้ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายๆ
-
- ดูแลทำความสะอาดอย่างไร : เช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ และหากมือเลอะอาหาร ขนม ควรล้างและเช็ดมือให้สะอาดก่อนหยิบใช้รีโมท
6. ตู้เย็น ตู้เย็นที่ใช้แช่อาหารเป็นแหล่งเชื้อโรคที่เราไม่ค่อยนึกถึงกัน นอกจากทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอแล้ว ต้องคอยตรวจสอบดูว่ามีอาหารหมดอายุ หรือบูดเสีย ติดอยู่ในตู้เย็นไหมด้วย
-
- ดูแลทำความสะอาดอย่างไร : นำอาหารทั้งหมดอายุในตู้เย็นออกมา และเช็ดทำความสะอาดคราบต่างๆ ในตู้เย็นให้สะอาด หากมีชิ้นส่วนตู้เย็นที่ถอดออกมาได้ ควรถอดออกมาล้าง แช่น้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเช็ดให้แห้ง นำกลับเข้าไปประกอบให้เรียบร้อย
7. เตียง โซฟา เครื่องนอน ผ้าห่ม ปลอกหมอน คราบเหงื่อไคลจากตัวเรามักจะถูกสะสมไว้บนโซฟา ผ้าห่มและเครื่องนอนอย่างเหนียวแน่น ถ้าเป็นปลอกหมอน ผ้าคลุม ยังอาจจะนำไปซักได้ แต่ถ้าเป็นโซฟา หรือเตียงเห็นจะนำออกมาเต้นได้
-
- ดูแลทำความสะอาดอย่างไร : ถอดเปลี่ยนซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนเป็นประจำหรือสัปดาห์ละครั้ง และพยายามเปิดม่านหรือหน้าต่างทุกเช้าให้แสงแดดเข้ามาช่วยขจัดกลิ่น และเชื้อโรคในเนื้อผ้าและโซฟาได้
8. ชั้นหรือตู้เก็บรองเท้า เราคงไม่ได้ทำความสะอาดรองเท้าทุกครั้งที่กลับถึงบ้าน ส่วนใหญ่ก็จะถอดเก็บไว้ในตู้รองเท้าเลยด้วยความสะดวก นั่นทำให้ในตู้รองเท้าอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างดี
-
- ดูแลทำความสะอาดอย่างไร : นอกจากจะนำรองเท้ามาทำความสะอาดแล้ว ก็ควรเช็ดทำความสะอาดในตู้ให้สะอาดเป็นประจำอีกด้วย
9. โถส้วม ที่กดชักโครก โถส้วมในห้องน้ำแหล่งรวมเชื้อโรคสำคัญที่เรารู้กันอยู่แล้ว
-
- ดูแลทำความสะอาดอย่างไร : นอกจากชักโครกที่ต้องหมั่นทำความสะอาดแล้ว อย่าลืมทำความสะอาดจุดสำคัญอย่างฝาชักโครก และที่กด ที่ต้องสัมผัสมือกับเราโดยตรง
10. สวิตช์ไฟ อีกหนึ่งจุดที่ต้องสัมผัสกับมือเราอยู่บ่อยที่สุดจุดหนึ่งในบ้าน เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่เราอาจคาดไม่ถึง
-
- ดูแลทำความสะอาดอย่างไร : ทำความสะอาดสวิตช์ไฟ ใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อหมาดๆ เช็ดทำความสะอาด
ดูแลบ้านอย่างไร สะอาด ปลอดภัย ห่างไกลโรค
- ทำความสะอาด แค่การกวาด ดูดฝุ่น ถูพื้นไม่เพียงพอ ต้องหมั่นทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรค
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยกับทุกคนในบ้าน
- สอนลูกให้เข้าใจความสำคัญของการทำความสะอาดบ้าน ปลูกฝังให้ลูกรักความสะอาด และเห็นความสำคัญของการดูแลสุขอนามัยทั้งกับร่างกาย และความสะอาดในบ้าน เพื่อให้เขาสามารถดูแลตัวเองได้ และมั่นใจว่าลูกน้อยจะปลอดภัย ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ
สอนลูกทำความสะอาดบ้านอย่างไรดี
- สอนได้ตั้งแต่ยังเล็ก : งานบ้านที่ซับซ้อนขึ้น อาจจะเริ่มเมื่อลูกอายุได้สักประมาณ 5-6 ขวบขึ้นไป แต่เราสามารถฝึกฝนลูกให้รู้จักรับผิดชอบได้ตั้งแต่เล็กๆ เช่น ฝึกให้ลูกรู้จักช่วยเหลืองานเล็กๆ น้อยๆ เช่น เก็บของเล่นให้เรียบร้อยจัดของให้เป็นระเบียบ เช็ดของเล่นที่ใช้เป็นประจำนำผ้าห่ม และตุ๊กตาตัวโปรดมาซักบ่อยๆ ฯลฯ
- เป็นตัวอย่างให้กับลูก : การฝึกให้ลูกช่วยทำงานบ้าน พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก เพื่อให้ลูกเห็นว่าต้องทำอย่างไร แบบไหน และลูกจะดีใจหากเราให้ลูกลองทำเหมือนที่พ่อแม่ทำ เช่น สอนการเช็ดโต๊ะ มีขั้นตอนอย่างไร เช็ดแบบไหน ถึงจะสะอาด ลองทำให้เขาดูในครั้งแรกๆ ก่อนเพื่อให้เขาเรียนรู้ นอกจากจะฝึกความรับผิดชอบแล้ว ยังช่วยให้เขามีความภาคภูมิใจในตัวเองด้วย
- ให้คะแนนเด็กขยัน รับผิดชอบ : ลองทำเป็นสมุดบันทึกคะแนนการทำงานบ้าน เช่น เมื่อลูกช่วยงานบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ก็มีคะแนนให้ สะสมไว้มากๆ แล้วอาจมีรางวัลพิเศษให้เพื่อเป็นกำลังใจ
- ชื่นชม ให้รางวัล : มีคำชมให้ลูกทุกครั้งที่ลูกช่วยเหลืองานบ้าน หรือถ้าลูกมีความรับผิดชอบสม่ำเสมอ อาจมีรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกๆ ขยันรักษาความสะอาด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Dettol Thailand
(พื้นที่เพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์)