ฝุ่น pm2.5 หรือชื่อเล่นว่า ฝุ่นจิ๋ว ความรุนแรงและผลกระทบไม่จิ๋วดังชื่อ เพราะหากไม่ป้องกันอย่างถูกต้อง เจ้าฝุ่น pm2.5 จะกระทบกับพัฒนาการ และทำให้เกิดโรคระยะยาวได้
รวมถึงระบบอื่นคือผิวหนังกับดวงตาก็เป็นลักษณะระคายเคืองคล้ายๆ ระบบทางเดินหายใจจะพบว่าเด็กมีอาการแสบตา คันตา น้ำตาไหลง่าย รวมถึงแพ้แสงได้จากการที่ฝุ่นเข้า รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตาแดงหลังจากที่มีอาการเยื่อบุตาอักเสบ
ส่วนที่ผิวหนังก็เป็นลักษณะอาการระคายเคืองเราจะแสบที่ผิวหนังผิวหน้าบริเวณที่เราไม่ได้ใส่แมสเราจะรู้สึกได้บางคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วอาการโรคผิวหนังที่เกิดจากภูมิแพ้อาจจะกำเริบก็จะมีลักษณะที่เป็นผื่นสากๆ แดงๆ คัน ขึ้นตามข้อพับแขนขาได้ คนที่เป็นโรคภูมิแพ้รุนแรงอยู่แล้วบางคนถึงขั้นลมพิษขึ้นอาการบวมที่ดวงตาและปากได้ถ้าเป็นระบบที่ค่อนข้างรุนแรง
เนื่องจากว่าฝุ่นละเอียดทะลุทะลวงมากไปถึงระบบหลอดเลือดเขาจะผ่านเข้าไปในระบบทางเดินหายใจหลังจากนั้นเขาก็จะเข้าถุงลมสามารถเข้าทางเส้นเลือดฝอยได้ เพราะฉะนั้นฝุ่นตัวนี้จะเข้าไปเป็นสารอนุมูลอิสระในหลอดเลือด ซึ่งสารอนุมูลอิสระจะทำให้เกิดการสร้าง Antioxidants ขึ้นมา เพราะฉะนั้นระบบเมตาบอลิซึมในร่างกายเราจะรวนจากฝุ่นตัวนี้ได้ เขายังสามารถนำพาโลหะหนักเข้าไปในร่างกายได้ด้วยเพราะฉะนั้นเขากลายเป็นสารก่อมะเร็งได้เช่นกัน
ในยุคปัจจุบันเราจะมีการเตือนอยู่แล้วผ่านทางพยากรณ์อากาศหรือ Application วัดค่า AQI เพราะฉะนั้นลักษณะของค่า AQI ค่อนข้างสูงในช่วง 1-50 ถือว่าปกติอากาศดีออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ช่วง 50-100 เด็กที่เป็นภูมิแพ้ต้องระวัง ถ้าเกิน 100-200 ก็ค่อนข้างต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งดีกว่า เพราะฉะนั้นตัวชี้วัดที่เป็นตัวเลขช่วยได้อยู่แล้ว นอกนั้นเราก็สังเกตจากอาการ อาการส่วนใหญ่มันทำให้เกิดการระคายเคือง เพราะฉะนั้นบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น ผิวหนังและดวงตาจะเป็นบริเวณที่ Sensitive เป็นพิเศษ ถ้าบุตรหลานมีอาการแสบ ระคายเคือง คันโดนที่ไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนอาจจะเกี่ยวกับฝุ่น PM2.5
1.ระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากว่าอาการคล้ายโรคภูมิแพ้อากาศ โพรงจมูกอักเสบ อาจมีน้ำมูก น้ำตาไหล ก็คือกลุ่มอาการคัด คัน จามทั่วไปเราก็เน้นการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นวิธีการเบื้องต้น
2.ถ้าเป็นดวงตาหรือผิวเราก็เน้นการทาโลชั่นที่มีมอยเจอร์ไรซ์เซอร์สูง ถ้าเราสัมผัสแล้วเราไม่แน่ใจให้ชำระล้างร่างกายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ช่วยลดความรุนแรงของส่วนนี้ได้ ถ้าเป็นผื่นลมพิษเราใช้คารามายได้ แต่ถ้าเป็นลักษณะผื่นแสบคันเราเน้นใช้มอยเจอร์ไรซ์เซอร์มากกว่า
เข้าไปรบกวนเมตาบอลิซึม พอระบบเมตาบอลิซึมเรามีปัญหาก็จะเกิดอาการอ่อนเพลียได้ค่อนข้างง่าย คล้ายๆ กับการพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากว่ามันเข้าไปในระบบหลอดเลือดมันก็เป็นสารอนุมูลอิสระอย่างหนึ่ง พอระบบเผาพลาญพลังงานหรือระบบเมตาบอลิซึมมีปัญหาเราก็จะอ่อนเพลียง่าย ก็จะรู้สึกว่าทำไมลูกเราอ่อนเพลียทั้งที่พักผ่อนเพียงพอกินอาหารเพียงพอ อันนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการสูดฝุ่น PM2.5
หลักการดูแลทั่วไปในช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 สาเหตุของฝุ่น PM2.5 อันดับหนึ่งมาจากท่อไอเสียรถยนต์ การเผาไม่ว่าจะเป็นเผาขยะ ควันธูป การสูบบุหรี่ รวมถึงความกดอากาศมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะเห็นว่าเวลามีปัญหา PM2.5 บริเวณแถบภาคเหนือภาคอิสานจะได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะจากเรื่องความกดอากาศของเขา เพราะฉะนั้นการดูแลหลักๆ เลยคือ
ใส่หน้ากากที่เป็นมาตรฐาน สำหรับป้องกันฝุ่น PM2.5 จริงๆ มีหน้ากาก N95 เท่านั้น แต่ที่เรารู้กันคือหน้ากาก N95 มีราคาค่อนข้างสูงแล้วการใส่ N95 ค่อนข้างอึดอัดไม่สบายทำให้หายใจลำบากในเด็กและไซส์ของ N95 ก็ไม่เหมาะกับเด็กเท่าไหร่ เราก็อาจจะใช้เป็นลักษณะหน้ากากกรอง 3 ชั้น เรียกว่าหน้ากากอนามัยเราสามารถใส่หน้ากากอนามัยซ้อนกัน 2 ชั้นได้เพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 หรือเราอาจจะใช้หน้ากากที่เป็นผ้าฝ้ายแล้วใส่แผ่นกรองอากาศหรือกระดาษทิชชูก็พอจะลดปริมาณฝุ่น PM2.5 อนุภาคได้พอสมควรเหมือนกันอาจจะเหมาะกับลักษณะทางเดินหายใจและใบกับโครงหน้าของเด็กมากกว่า N95
สำหรับเด็กสามารถใส่หน้ากากได้ทั้งวันแต่ขอเป็นเด็กที่อายุเกิน 2 ปีขึ้นไปเพราะถ้าอายุต่ำกว่า 2 ปี ลักษณะการใส่หน้ากากตลอดเวลาอาจจะไปอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนต้นได้
สำหรับเครื่องฟอกอากาศถ้าเป็นลักษณะอาคารเปิดอย่างเช่น โรงเรียน หรือห้างสรรพสินค้าเราจะเป็นว่าไม่ได้เป็น Area ที่ปิดอยู่ตลอดเวลาเพราะฉะนั้นก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีฝุ่นผ่านเข้าไปบ้าง เครื่องฟอกอากาศก็เป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่มาช่วย ณ ปัจจุบัน เครื่องฟอกอากาศปัจจุบันเป็นลักษณะการกรองแบบ Hepa Filter ทั้งอยู่แล้ว แต่ Hepa Filter จะเป็นลักษณะการกรองที่เป็นไรฝุ่นมีขนาด 5 ไมครอนขึ้นไปแต่เจ้าฝุ่นละเอียดของเรา PM2.5 มันเล็กกว่า 2.5 ไมครอน
เพราะฉะนั้นมันจะใช้เทคนิคเพิ่มเติมอื่นๆ สำหรับเครื่องฟอกอากาศ เช่น พวกกลุ่ม Airstream เทคนิคนี้คือการปล่อย Electron ประจุเร็วๆ ช่วยเข้ามาจับฝุ่นหรือ plasma cluster จะคุ้นหู อันนี้จะปล่อยประจุบวก ประจุลบ สำหรับการจับฝุ่นและการจับเชื้อโรค และมีเรื่องของ Minus ion generator ตัวนี้น่าจะคุ้นหูเพราะดังมากเป็นเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาตัวนี้เขาจะปล่อยประจุลบออกมาเพื่อดักจับฝุ่นโดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ไม่เข้ามาในระบบทางเดินหายใจของเรา จะเป็นคำตอบช่วยผู้ปกครองได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องฟอกอากาศไม่ว่าจะเป็นเครื่องฟอกอากาศแบบตั้งโต๊ะ หรือเครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอติดตัวช่วยได้ในระดับหนึ่งเลือกให้เหมาะสม
เพิ่มขึ้น 3-5 เท่าจากรายงานปี 2021 อาจจะด้วยหลายๆ อย่าง เรื่องของเปลี่ยนแปลง เรื่องของการติดเชื้อไวรัสด้วย เรื่องของฝุ่นด้วย ยอดตัวเลขของภูมิแพ้เยอะขึ้นไม่ว่าจะภูมิแพ้อาหาร แพ้อากาศ รวมไปถึงโรคหอบหืดด้วย มาจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ณ ปัจจุบัน แต่เดิมเราอาจจะให้คำอธิบายว่าโรคภูมิแพ้มาจากพันธุกรรม 50% สิ่งแวดล้อม 50% แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครบอกได้แน่นอนว่าเปลี่ยนไปเยอะขนาดไหน ก็พบว่าเป็นตัวเลขที่เยอะขึ้นกว่าในอดีตเกือบ 10 เท่าเลยทีเดียว
จริงๆ อีกประเด็นคือฝุ่น PM2.5 ในหญิงตั้งครรภ์ก็ส่งผลกระทบพอสมควร เราพบว่าในช่วงที่มี PM2.5 เยอะๆ เราพบรายงานการคลอดก่อนกำหนดกับเด็กที่น้ำหนักน้อยกว่าปกติเยอะขึ้นมากแล้วก็เห็นว่ามันส่งผลกระทบช่วงตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้นการดูแลในช่วงพีคของ PM2.5 เราแนะนำตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์เลย
อยากให้คุณแม่ตั้งครรภ์ดูแลสุขภาพและระวังในเรื่องฝุ่น PM2.5 ให้มากๆ น้องที่คลอดออกมาอยากกระตุ้นแนะนำให้กินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน ถ้าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเยอะๆ อาจจะต้องกินนมพิเศษสำหรับการป้องกันภูมิแพ้ไปจนถึงอายุ 1 ปี นอกนั้นทั่วๆ ไปเราก็เน้นการกินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นอาหารหลัก 5 หมู่ ส่วนอาหารที่ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระพวกกลุ่มวิตามินซี วิตามินอี โอเมก้า เราก็แนะนำให้รับประทานมากขึ้น สุดท้ายคือการออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางปอดลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ในทุกโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ช่วงนี้เน้น 3 เรื่องคือ 1.การใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี 2. ล้างมือบ่อยๆ เน้นแอลกอฮอล์ 70% Food grade สำหรับเด็กเพื่อป้องกันอาการระคายเคือง
3. Social Distancing เว้นระยะห่างทางสังคม ช่วงพีคของฝุ่น PM2.5 เช็คค่า AQI ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งด้วย