ที่ปรึกษาโภชนาการ : คุณแววตา เอกชาวนา นักโภชนาการ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
อาหารแต่ละชาติ มักจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปตามรูปแบบของวัฒนธรรม สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ซึ่งทำให้มีรสชาติอาหาร วิธีปรุง และวัตถุดิบที่ใช้ต่างกัน สำหรับความอร่อยนั้นคงไม่สามารถบอกได้ว่าอาหารของชาติใดอร่อยที่สุด ขึ้นอยู่กับความเคยชิน และความชอบส่วนตัว ทางด้านคุณค่าทางโภชนาการนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามวัตถุดิบที่นำมาใช้ และเทคนิคการปรุง แม่ท้องสามารถเลือกอร่อยกับอาหารนานาชาติที่ชอบได้เพียงแต่เลือกชนิดที่มีประโยชน์และมีคุณค่าสารอาหารดีๆ ให้กับร่างกาย โดยการเรียนรู้จุดเด่นของอาหารแต่ละชาติว่ามีประโยชน์อย่างไรก่อนเลือกรับประทานค่ะ

อาหารเกาหลี
ข้าวเป็นอาหารจานหลักของเกาหลีเหมือนกับอาหารไทย แต่อาหารที่กินกับข้าวจะมีรสชาติและกลิ่นรสที่ไม่ร้อนแรงมากเท่าอาหารไทย ส่วนผสมของอาหารมีจุดเด่นในเรื่องการนำผักหลากหลายชนิดมาประกอบอาหาร ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและเกลือแร่ รวมทั้งใยอาหารที่จำเป็น อาหารเกาหลีใช้เครื่องปรุงที่ช่วยเพิ่มรสชาติจาก กระเทียม, พริกแดง, หัวหอม, ซีอิ๊ว, ถั่วหมัก, ขิง, และน้ำมันงา ทำให้อาหารมีกลิ่นเฉพาะ และช่วยเพิ่มคุณค่าสารอาหารจากธรรมชาติ อาหารชื่อดังและเป็นสัญญลักษณ์ของอาหารเกาหลีคือ “กิมจิ” เป็นเครื่องเคียงวางอยู่บนโต๊ะอาหารเหมือนกับน้ำพริก ที่คู่สำรับอาหารไทยมานาน กิมจิทำมาจากผักและผลไม้หลากหลายชนิดๆ ปรุงและหมักด้วยเครื่องเทศ มีทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ
ข้อควรระวังอาหารหมักดอง ควรเลือกกิมจิที่ได้มาตรฐานและเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
อาหารไหม้ อาหารประเภทปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม มีสารเคมีที่ทำลายสุขภาพ แม่ท้องควรหลีกเลี่ยงอาหารปิ้งย่างที่สุกๆ ดิบๆ
อาหารญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่นมีจุดเด่นที่กลายเป็นสัญลักษณ์ความอร่อย คือการปรุงอาหารให้ได้รสชาติตามธรรมชาติของวัตถุดิบที่นำมาใช้มากที่สุด โดยเน้นความสดและการตกแต่งอย่างปราณีตสวยงาม อาหารยอดนิยมก็คือ ซาชิมิ ที่ทำจากปลา และอาหารทะเลสดๆ โดยไม่ผ่านการกรรมวิธีการปรุง รับประทานกับซีอิ้วญี่ปุ่น วาซาบิขิงดอง หัวไชเท้าขูดเส้น นอกจากนี้ก็มี สาหร่าย ถั่วเหลือง ซึ่งเป็นแหล่งของโปรตีนที่สำคัญเหมาะสำหรับแม่ท้องที่อยู่ในช่วงแพ้เหม็นกลิ่นเนื้อสัตว์ ควรเลือกอาหารญี่ปุ่นที่มีสาหร่ายเป็นส่วนประกอบในอาหาร เช่น ข้าวห่อสาหร่าย ราเมน ถั่วเหลืองก็เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่สำคัญของอาหารญี่ปุ่นไม่ว่าจะนำมาทำซุปเต้าเจี้ยว เต้าหู้ หรือถั่วเหลืองหมักที่เรียกว่า นัตโตะ นอกจากข้าวแล้วอาหารญี่ปุ่นยังมีอาหารประเภทเส้นที่เป็นอาหารยอดฮิตในบ้านเราด้วย เช่น อุด้ง ราเมน โซบะ เป็นต้น
ข้อควรระวังอาหารเค็ม อาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีรสเค็มจากการปรุงรสและเครื่องจิ้ม แม่ท้องไม่ควรปรุงรสเค็มเพิ่ม ถ้าอาหารที่สั่งมามีรสเค็มจัดไม่ควรรับประทานจนหมด เพราะจะทำให้เพิ่มปริมาณโซเดียมในร่างกาย
เนื้อสัตว์ดิบ เช่น ปลาดิบต่างๆ แม่ท้องควรหลีกเลี่ยง นอกจากย่อยยากแล้ว อาหารสดบางร้านที่เก็บไว้ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ง่าย
อาหารอินเดียอาหารอินเดียมีชื่อเสียงที่สุดในเรื่องการใช้เครื่องเทศแห้งหลายชนิดบดรวมกัน มาซาล่า(Masala) เป็นเครื่องเทศชื่อดังของอินเดีย อาหารอินเดียส่วนใหญ่ทั้งคาวและหวาน รวมทั้งเครื่องดื่มต่างๆ ก็นิยมใส่เครื่องเทศแตกต่างกับอาหารไทยที่นิยมใช้เครื่องเทศสด ชาวอินเดียนิยมกินข้าวบาสมาตี ซึ่งเป็นข้าวที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวหอมมะลิ เหมาะสำหรับแม่ท้องที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง นอกจากข้าวแล้วอาหารอินเดียนิยมกินแป้งอื่นๆ แทนข้าว เช่น โรตี(Roti) จาปาตี(Chapati) พารัตทา (Paratha) นาน(Nan) และปาปัด(Papad) อาหารอินเดียยอดนิยม ได้แก่ ซาโมซ่า ดาล(ซุปถั่ว) ไก่ย่าง(Chicken Tikka) เต้าหู้ชีสในซอสผักโขม(Spinach Paneer) โดซ่า(Doza) เป็นแผ่นแป้งทอดยัดไส้ต่างๆ อาหารอินเดียจะไม่ใส่ผงชูรส น้ำมันที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเนยใส(Ghee) ที่ทำจากไขมันของนม
ข้อควรระวังกลิ่นเครื่องเทศ โดยเฉพาะแม่ท้องในไตรมาสแรก อาจมีอาการแพ้ท้อง คนที่ไม่เคยรับประทานอาหารอินเดียมาก่อนควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเครื่องเทศมาก เพราะจะกระตุ้นให้อาเจียนได้ง่าย
สูง อาหารอินเดียแทบทุกชนิดมักมีส่วนประกอบของน้ำมัน แม่ท้องที่มีน้ำหนักตัวเกินอาจต้องเลือกเมนูที่มีไขมันต่ำ
อาหารเวียดนามอาหารเวียดนามเป็นสัญญลักษณ์ของอาหารสุขภาพ เพราะอาหารส่วนใหญ่เน้นไปที่การกินคู่กับผักสดหลากหลายชนิด จึงให้พลังงานต่ำ แตกต่างจากอาหารชาติอื่นที่มีทั้งผักสดและผักที่ปรุงแล้ว อาหารเวียดนามนิยมกินคู่กับน้ำจิ้มเพื่อปรุงรสให้อร่อยยิ่งขึ้น อาหารส่วนใหญ่ปรุงด้วยกรรมวิธีที่ใช้น้ำมันน้อย จึงช่วยให้แม่ท้องไม่ต้องกังวลใจเรื่องน้ำหนักตัว เมนูอาหารเวียดนามยอดฮิต ได้แก่ เฝอ(PHO) ปอเปี๊ยะญวน กุ้งพันอ้อย แหนมเนือง
ข้อควรระวัง ผักไม่สะอาด เนื่องจากอาหารเวียดนามต้องรับประทานคู่กับผักสด แม่ท้องควรเลือกร้านที่มีสุขาภิบาลอาหารที่ดี โดยสามารถสังเกตจากสภาพแวดล้อมของร้าน ก่อนรับประทานควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งเพื่อป้องกันอาหารเป็นพิษ
ผงชูรส บางร้านนิยมใส่ผงชูรส ควรบอกทางร้านอาหารว่าไม่ใส่ผงชูรส
อาหารจีนอาหารจีนมีความหลากหลายตามลักษณะของที่ตั้ง เช่น อาหารจีนเสฉวน กวางตุ้ง ยูนาน อาหารจีนที่รู้จักกันทั่วโลก คือ ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ เป็ดปักกิ่ง หมูหัน หูฉลาม และอาหารที่ทำจากเต้าหู้ สำหรับแม่ท้องที่ต้องการเพิ่มแคลเซียมขอแนะนำเมนูอาหารจีนที่มีเต้าหู้เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากอาหารจีนมีหลากหลายรูปแบบ การปรุงอาหารจึงมีทั้ง การทอด ย่าง นึ่ง ตุ๋นอาหารจีนมีความเผ็ดร้อนน้อยกว่าอาหารไทย ไม่นิยมใช้พริกในการปรุงอาหาร แต่เต็มไปด้วยรสชาติและสีสัน เครื่องปรุงหลักที่นิยมใช้ คือ ซีอิ้ว น้ำมันหอย และเกลือ
ข้อควรระวังรสเค็ม อาหารจีนส่วนใหญ่ปรุงรสด้วยซีอิ้ว และซอสต่างๆ ทำให้มีรสเข้มข้น เค็มจัด ซึ่งแม่ท้องไม่ควรกินอาหารเค็มจัดเพราะอาจทำให้กิดภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ได้
ไขมันสูง เช่น อาหารประเภทผัดหรือทอด นิยมใช้น้ำมันปริมาณมากปรุงอาหาร แม่ท้องควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันสูงเพราะจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
Facebook Comment